ซื้อรถหนึ่งคันมีหลายสิ่งที่เจ้าของต้องวางแผนให้รอบคอบ โดยเฉพาะการดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ประกันรถยนต์จึงเป็นตัวเลือกสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของรถรู้สึกอุ่นใจกว่า ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบไหน รถชน รถหาย ไฟไหม้ ก็ยังมีประกันที่เข้ามาแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ให้เบาลงได้ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าประกันชั้น 1 2 3 ต่างกันยังไง ทำไมค่าเบี้ยต่างกันหลายพันบาท heygoody จะมาเล่าให้ฟังว่า ประกันแต่ละชั้นมีจุดเด่นอะไรบ้างเพื่อให้ทุกคนเลือกกรมธรรม์ได้ง่ายขึ้น
ประกันรถยนต์ตั้งแต่ชั้น 1-3 มีเงื่อนไขความคุ้มครองและค่าเบี้ยแตกต่างกัน แต่ถ้าให้พูดถึงรายละเอียดยังมีกรมธรรม์บางตัวที่เงื่อนไขใกล้เคียงกัน heygoody ขอแบ่งรายละเอียดเป็น 4 หัวข้อ ดังนี้
ประกันชั้น 1 และ 2+ คุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุรถชนทุกกรณี ครอบคลุมค่าซ่อมรถแบบซ่อมเขาซ่อมเราตามทุนประกัน ชดเชยทรัพย์สินหาย และค่ารักษาพยาบาล แต่ชั้น 2+ ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี หมายความว่า ถ้าขับไปชนประตูบ้าน ขูดฟุตปาธ หินกระเด็นใส่กระจก มีแค่ประกันชั้น 1 เท่านั้นที่รับเคลม แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าเบี้ยรายปีสูงกว่าชั้น 2+ เฉลี่ย 3,000-4,000 บาท
ประกันชั้น 1 และ 3+ รับผิดชอบความเสียหายแบบซ่อมเขาซ่อมเราเหมือนกัน แต่ชั้น 3+ ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี ถูกชนแล้วหนี ถูกโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม และความเสียหายจากภัยธรรมชาติทุกประเภท ค่าเบี้ยต่อปีของประกันชั้น 3+ ถูกกว่าชั้น 1 เฉลี่ย 4,000-5,000 บาท จึงเหมาะกับรถใช้น้อยหรือรถสำรองที่ไม่ได้ใช้งานเป็นหลัก
ประกันชั้น 2 และ 2+ ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณีเหมือนกัน โดยชั้น 2 จะรับผิดชอบค่าเสียหายเฉพาะตัวรถและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่ชั้น 2+ รับผิดชอบความเสียหายของเราและคู่กรณี ครอบคลุมกรณีไฟไหม้และสูญหาย มีค่าเบี้ยแพงกว่าเล็กน้อยแต่สิทธิประโยชน์คุ้มกว่าชั้น 2 มาก
ประกันชั้น 3 และ 3+ เป็นกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองน้อยสุด รับผิดชอบเฉพาะกรณีรถชนกัน ทั้งค่าซ่อมรถคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยที่ชั้น 3+ รับผิดชอบค่าซ่อมรถของผู้เอาประกันภัย แต่ชั้น 3 ธรรมดาจะไม่ครอบคลุมค่าซ่อมรถของเรา เหมาะกับรถเก่าใช้งานน้อยและผู้ขับขี่มีประสบการณ์สูง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุต่ำ
เมื่อเข้าใจความแตกต่างของประกันชั้น 1, 2 และ 3 แล้ว heygoody มีวิธีช่วยเลือกกรมธรรม์ให้คุ้มค่าและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ว่ามีอะไรต้องคำนึงบ้าง
อันดับแรกให้มองที่ตัวเองก่อนว่าขับรถคล่องรึยัง เพราะผู้ขับขี่มือใหม่ส่วนใหญ่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จึงเหมาะกับประกันชั้น 1 เพราะคุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ลองเทียบค่าซ่อมแต่ละครั้งกับค่าเบี้ยรายปียังไงก็คุ้มกว่า ถ้าขับจนชำนาญและมั่นใจมากขึ้นเลือกประกันชั้นรองลงมาได้เลย ค่าเบี้ยถูกลงแต่ต้องแลกกับความคุ้มครองที่น้อยลงตามไปด้วย
สำหรับรถใช้ประจำสัปดาห์ละ 5-6 วัน แนะนำให้เลือกประกันชั้น 1 หรือ 2+ ก็ได้ คุ้มครองความเสียหายแบบซ่อมเขาซ่อมเรา เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูง แม้ว่าจะขับคล่องแค่ไหนก็อาจเป็นฝ่ายเสียหายได้เสมอ ส่วนรถประจำบ้านใช้น้อย จอดบ่อยกว่าขับ เลือกชั้น 3+ หรือชั้น 3 ได้เลย
ประกันรถยนต์ทุกรายมีตัวเลือกซ่อมอู่และซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) 2 ตัวเลือกนี้มีผลต่อค่าเบี้ยประกัน ถ้ารถใหม่ป้ายแดง หรือรถอายุน้อยที่ยังอยู่ในประกัน เลือกซ่อมศูนย์คุ้มกว่า ถ้ารถอายุเริ่มเยอะ 6-7 ปีและหมดประกันศูนย์ไปแล้ว ทางบริษัทประกันอาจให้ทางเลือกแค่ซ่อมอู่เท่านั้น มาตรฐานอาจเป็นรองศูนย์แต่ค่าเบี้ยถูกกว่าเล็กน้อย heygoody แนะนำว่าให้เลือกอู่ที่มีประวัติดีและอยู่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกเวลาเข้ารับบริการ
ก่อนเลือกแผนประกันที่ถูกใจลองเอากรมธรรม์แต่ละตัวมาเปรียบดูก่อน ทั้งค่าเบี้ย ความคุ้มครองและเงื่อนไข เพราะบางครั้งประกันแพงสุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะกับเราเสมอไป ดังนั้นเอารายละเอียดเหล่านี้มากางดูให้ชัด ๆ เปรียบเทียบให้มั่นใจว่าแบบไหนคุ้มค่าเบี้ยกับเหล่ากู๊ดดี้ที่สุด
เหล่ากู๊ดดี้คงเข้าใจแล้วว่าประกันชั้น 1 2 3 ต่างกันยังไง และใครที่อยากได้กรมธรรม์สุดคุ้ม heygoody โบรกเกอร์ประกันรถยนต์ชั้นนำของไทย มาพร้อมกรมธรรม์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ ราคาพิเศษ มีให้เลือกได้ตามต้องการ เปรียบเทียบและเช็คราคาเองได้ผ่านเว็บไซต์ ไม่ต้องคุยผ่านใครให้เสียเวลา เลือกผ่อน 0% ได้นาน สูงสุด 10 เดือน สนใจเลือกประกันชั้นนำเลือก heygoody เลย
การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด