ทำประกันชีวิตแบบไหนดี ตลอดชีพ vs สะสมทรัพย์

26 คน
แชร์
ทำประกันชีวิตแบบไหนดี ตลอดชีพ vs สะสมทรัพย์

ประเภทของการประกันชีวิตแบ่งเป็นหลายแบบ จนบางทีไม่รู้ว่า ควรทำประกันชีวิตแบบไหนดี? วันนี้ heygoody เลยจะพาไปดูประกันชีวิตสองแบบยอดนิยม นั่นก็คือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ มาดูกันว่า แต่ละแบบมีข้อดีข้อจำกัดอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับเราที่สุด!

ยาวไปเลือกอ่านได้นะ ซ่อน

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพคืออะไร

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพคืออะไร

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาว โดยต้องจ่ายเบี้ยประกันระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5 ปี 20 ปี แต่ให้การคุ้มครองตลอดชีพ หรือจนถึงอายุ 90 ปี หรือ 99 ปี เป็นต้น เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าอยู่จนครบสัญญาก็จะมีเงินคืนตามทุนประกันที่ทำไว้ โดยไม่มีการจ่ายปันผลคืนระหว่างสัญญา

ข้อดีของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

  • ให้ความคุ้มครองชีวิตตลอดชีพ
  • เบี้ยประกันไม่แพง
  • เหมาะจะทำไว้เป็นหลักประกันให้ลูกหลาน
  • เบี้ยประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา ไม่เพิ่มขึ้นตามอายุ
  • ลดหย่อนภาษีได้

ข้อจำกัดของประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

  • ไม่มีผลตอบแทนระหว่างสัญญา

ใครที่เหมาะกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

  • คนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตระยะยาว 
  • คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว อยากมีมรดกให้กับคนข้างหลัง ถ้าตัวเองเป็นอะไรไป

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คืออะไร

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คืออะไร

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองและมีการออมเงินเข้ามาเกี่ยวด้วย โดยมีการจ่ายเงินปันผลคืนระหว่างทาง และผู้เอาประกันจะได้รับเงินก้อนคืนเมื่อสัญญาครบกำหนด แต่ถ้าผู้เอาประกันเสียชีวิตในระหว่างสัญญา ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์

ข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • มีทั้งความคุ้มครองชีวิตและการออมเงินในกรมธรรม์เดียว
  • สร้างวินัยการออม มีเงินก้อนในอนาคต
  • มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนแน่นอน
  • ใช้ลดหย่อนภาษีได้

ข้อจำกัดของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • ผลตอบแทนจากการออมอาจไม่สูงเท่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี หรือการลงทุนในตลาดหุ้น
  • เบี้ยประกันค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ

ใครที่เหมาะกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • คนที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิตและการออมเงิน และต้องการได้รับผลตอบแทนที่สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต หรือเป็นเงินเกษียณอายุได้
  • คนที่อยากสร้างวินัยในการออมเงิน ซึ่งได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคาร

ความแตกต่างระหว่าง ประกันชีวิตแบบตลอดชีพและสะสมทรัพย์

ความแตกต่างระหว่าง ประกันชีวิตตลอดชีพและสะสมทรัพย์

หลังจากรู้จักกับประกันชีวิตทั้งสองแบบแล้ว มาดูกันว่าความแตกต่างระหว่างประกันชีวิตแบบตลอดชีพ และประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีอะไรบ้าง เพื่อให้เหล่ากู๊ดดี้สามารถเลือกประกันชีวิตแบบที่เหมาะกับตัวเองได้

1. ระยะเวลาความคุ้มครอง

ประกันชีวิตตลอดชีพให้ความคุ้มครองไปจนกว่าผู้เอาประกันจะเสียชีวิต หรือจนถึงอายุ 80 ปี 90 ปี หรือ 99 ปี ขึ้นอยู่กับแผนประกัน ในขณะที่ประกันชีวิตสะสมทรัพย์มีระยะเวลาความคุ้มครองที่กำหนดไว้แน่นอน เช่น 15 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี เมื่อครบกำหนด ผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนตามที่ระบุในกรมธรรม์ และความคุ้มครองจะสิ้นสุดลง

2. เบี้ยประกัน

ประกันชีวิตสะสมทรัพย์มีเบี้ยประกันที่สูงกว่า เพราะมีการจ่ายเงินคืนระหว่างสัญญา ในขณะที่ประกันชีวิตตลอดชีพ เบี้ยประกันค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับทุนประกัน ดังนั้น เวลาจะเลือกประกันชีวิตอันไหนดี ต้องประเมินด้วยว่า เราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ตามเงื่อนไขหรือไม่

3. ทุนประกัน

ประกันชีวิตตลอดชีพมักจะมีทุนประกันที่สูง เนื่องจากให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต ในขณะที่ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทุนประกันที่ได้อาจจะน้อยกว่าแบบประกันอื่น ๆ แต่จะมีส่วนของเงินคืนระหว่างทาง และเมื่อครบกำหนดสัญญา จึงไม่เหมาะกับการทำเพื่อคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก แต่ถ้าอยากทำเพื่อออมเงิน ก็จัดเลย!

4. ผลตอบแทน

ประกันชีวิตสะสมทรัพย์มีทั้งเงินคืนระหว่างสัญญาและเงินก้อนเมื่อครบกำหนด ส่วนประกันชีวิตตลอดชีพ จะได้รับเงินทุนประกันคืนก็ต่อเมื่ออยู่จนครบสัญญา หรือเสียชีวิต ไม่มีการจ่ายปันผลคืนระหว่างสัญญา

5. สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ทั้งประกันชีวิตตลอดชีพและสะสมทรัพย์ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้เอาประกัน โดยสามารถนำเบี้ยประกันมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งปัจจุบันสามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกประกันชีวิต

อ่านมาถึงตรงนี้ คงเริ่มมองภาพออกแล้วว่า ประกันชีวิตทั้งสองแบบต่างกันยังไง แต่ถ้าถามว่า ควรเลือกจะเลือกประกันชีวิตอันไหนดีนั้น มี 3 ข้อที่ต้องคำนึง ตามนี้เลย

1. เป้าหมายทางการเงินระยะยาว

ถ้าเป้าหมายทางการเงิน คือต้องการสร้างหลักประกันให้กับคนข้างหลัง อยากส่งมอบมรดกให้กับพ่อแม่ หรือลูกหลาน แนะนำให้เลือกทำประกันชีวิตตลอดชีพ แต่ถ้ามีเป้าหมายเก็บเงินก้อนให้คงอยู่และได้รับเงินคืน เพื่อใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น ลงทุน ใช้ในวัยเกษียณ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์

2. ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

ควรเลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับรายได้และภาระค่าใช้จ่ายของตนเอง เลือกแบบประกันที่จ่ายไหว ไม่กระทบการเงินส่วนอื่น อย่าลืมว่า การหยุดจ่ายเบี้ยกลางคันอาจทำให้เสียประโยชน์ในการรับผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน

3. ความต้องการด้านความคุ้มครอง

ถ้าเน้นความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก ไม่สนใจเรื่องเงินคืนระหว่างสัญญา ประกันชีวิตตลอดชีพนี่แหละเหมาะที่สุด แต่ถ้าต้องการเน้นการออมเงิน พร้อมทั้งได้ความคุ้มครองชีวิตไปด้วย ก็จัดประกันชีวิตสะสมทรัพย์ได้เลย!

เลือกประกันชีวิตให้เหมาะสม เพื่อความอุ่นใจของตัวเองและคนที่รัก

การเลือกประกันชีวิตแบบไหนดีนั้น ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน เหล่ากู๊ดดี้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ทั้งเรื่องเป้าหมายทางการเงิน ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน และความต้องการด้านความคุ้มครอง แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจเงื่อนไขและผลประโยชน์ของกรมธรรม์อย่างถ่องแท้ และเลือกบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ

สำหรับเหล่ากู๊ดดี้ที่สนใจประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ สามารถมาเช็คค่าเบี้ยประกันและเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทประกันต่าง ๆ ที่เว็บไซต์ heygoody ได้เลย รับรองว่า มีประกันราคาดี ความคุ้มครองถูกใจให้เลือกซื้อแน่นอน หรือถ้ายังไม่แน่ใจ แอดไลน์ @heygoody มาได้ พร้อมตอบทุกคำถาม และแนะนำตัวเลือกเหมาะสมกับความต้องการของเหล่ากู๊ดดี้ที่สุด!

ที่มา : Money Buffalo

แชร์
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
แชร์
แชร์

การันตีด้วยรางวัลความสำเร็จ

Insure Tech Connect Asia
  • Brokerage Breakthrough Awards 2024
  • Data Analytics Master Awards
NEWYORK FESTIVALS
  • รางวัล Bronze หมวดหมู่ Insurance แคมเปญ #heyIntroverts
  • Finalist หมวดหมู่ Film-Non-Broadcast
chevron-down