ทุกวันนี้คนไทยเราเสี่ยงกับโรคร้ายแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมบางโรคยังเป็นโรคที่รักษาไม่หายและนำไปสู่การเสียชีวิตได้! วันนี้เรามาดูกันว่า 7 โรคร้ายแรงที่พบบ่อยในคนไทยมีโรคอะไรบ้าง? พร้อมแนะนำตัวช่วยจำเป็นเมื่อต้องเผชิญโรคร้ายแรง เพื่อให้เหล่ากู๊ดดี้เตรียมพร้อมรับมือได้อย่างมั่นใจ
มาดูพร้อมกันว่า โรคร้ายแรงมีอะไรบ้างที่เหล่ากู๊ดดี้ควรระวังเป็นพิเศษ
โรคหลอดเลือดสมอง หรือที่เรียกว่า "สโตรก" แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ หลอดเลือดสมองแตก และหลอดเลือดสมองตีบ ตัน เป็นภาวะที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์สมองตาย ส่งผลให้เกิดอาการอัมพาตหรือเสียชีวิตได้
จากการรายงานสถิติสาธารณสุข สธ. ในปี 2566 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 349,122 ราย สาเหตุหลักมาจากความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และการสูบบุหรี่ การควบคุมปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้และการออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
โรคหลอดเลือดหัวใจ อีกหนึ่งโรคอันตรายที่มาเงียบ ๆ แต่ร้ายแรงไม่แพ้โรคอื่น เกิดจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน หรืออุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เหล่ากู๊ดดี้อาจจะรู้สึกเจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอกรุนแรง ร้าวไปจนถึงกราม ไหล่ หรือแขนซ้าย หายใจไม่ออก คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าปล่อยไว้นานอาจถึงขั้นหัวใจวายเฉียบพลันได้เลย
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ไม่ค่อยออกกำลังกาย ใครรู้ตัวว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้รีบปรับเปลี่ยนด่วน!
โรคมะเร็ง เป็นโรคที่คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด โดยมะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งเกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และพฤติกรรมเสี่ยงมะเร็ง การตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างสม่ำเสมอและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การงดสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยลดความเสี่ยงได้
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดจากหลอดลมตีบแคบลง เนื่องจากได้รับสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเป็นเวลานาน จนหลอดลมและเนื้อปอดอักเสบ ไม่อาจฟื้นคืนสู่สภาพปกติได้อีก ทำให้หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง มีเสมหะเยอะ โดยคนที่สูบบุหรี่จัด หรืออยู่ในที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูงจะมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้การขาดสาร Alpha-1 Antitrypsin ก็เป็นอีกสาเหตุ แม้จะไม่ได้สูบบุหรี่ก็ตาม ทางที่ดีแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง ควันพิษ และตรวจสุขภาพประจำปี จะช่วยลดความเสี่ยงได้
โรคเบาหวาน อีกหนึ่งโรคร้ายแรงยอดฮิตของคนไทย เกิดจากภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ ส่งผลให้ตับทำงานหนัก สัญญาณเตือนของโรคนี้ เช่น รู้สึกหิวบ่อย กระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อยถึงบ่อยมาก น้ำหนักลดโดยไม่รู้สาเหตุ ชาตามปลายมือปลายเท้า เป็นต้น ถ้าควบคุมไม่ดีอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้าย เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และเบาหวานขึ้นตาจนตาบอดในที่สุด
โรคความดันโลหิตสูง เป็นภาวะที่แรงดันเลือดในหลอดเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต และโรคหลอดเลือดสมอง ส่วนสาเหตุมักเกิดจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกินอาหาร เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ กินอาหารเค็ม มัน ไม่ออกกำลังกาย หรือเครียดบ่อย ๆ เป็นต้น ที่น่ากลัวคือมันมักไม่มีอาการชัดเจน ทำให้หลายคนเป็นโดยไม่รู้ตัว จนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
โรคไตเรื้อรัง เกิดจากไตค่อย ๆ เสื่อมลงเรื่อย ๆ จนไม่สามารถกรองของเสียออกจากร่างกายได้ สาเหตุหลักมาจากโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่แล้ว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตอักเสบ หรือโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
โรคไตเรื้อรังในระยะแรกแทบจะไม่แสดงอาการเลย จนกระทั่งไตถูกทำลายไปมากกว่า 50% จะเริ่มแสดงอาการ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ คันตามร่างกาย หรือปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน เป็นต้น ความน่ากลัว คือเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำได้แค่ชะลอการเสื่อมของไต เพื่อลดโอกาสในการฟอกไตเท่านั้นเอง
ทุกโรคมีทางรักษา เพราะวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก แต่ถ้าพูดถึงโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น โรคพวกนี้จะยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่วงการแพทย์ก็มีวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า วิถีชีวิตของเรามีผลต่อสุขภาพมาก การกินอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารมัน ๆ เค็มจัด หวานจัด กินผักผลไม้น้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย นอนดึก หรือเครียดจัด สารพัดพฤติกรรมพวกนี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงทั้งนั้น! ยิ่งทำบ่อย ๆ ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก
บางทีมันก็ไม่ใช่แค่เรื่องพฤติกรรม เพราะบางคนมีพันธุกรรมที่เสี่ยงต่อโรคบางอย่าง เช่น มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งหรือโรคหัวใจ ก็อาจจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมก็มีผลด้วย เช่น อยู่ในที่ที่มีมลพิษสูง ทำงานกับสารเคมีอันตราย หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เครียดมาก ๆ ก็เพิ่มความเสี่ยงได้เหมือนกัน
ถึงเวลาปรับพฤติกรรมกันแล้ว! เริ่มจากกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ ลดหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงลด ละ เลิกเหล้าบุหรี่ และจัดการความเครียดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น ทำสมาธิ โยคะ หรือหากิจกรรมที่ชอบทำ แค่นี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะแล้ว
อย่าลืมไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะ มันช่วยให้เหล่ากู๊ดดี้เจอปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่มันจะลุกลามจนรักษายาก ซึ่งรายการตรวจก็มีตั้งแต่ตรวจวัดความดัน น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด ตรวจการทำงานของตับไต และคัดกรองมะเร็งตามความเสี่ยงของแต่ละคน เช่น ตรวจแมมโมแกรมเพื่อค้นหามะเร็งเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบแปปเสมียร์ หรือส่องกล้องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น ยิ่งพบเร็ว โอกาสรักษาหายก็ยิ่งสูง!
เรื่องสุขภาพไม่แน่นอน บางทีถึงระวังแค่ไหนก็อาจจะเจอโรคร้ายแรงได้ ดังนั้นการมีประกันโรคร้ายแรงก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะประกันโรคร้ายแรงจะให้จ่ายเงินให้ กรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งเรารู้กันดีว่าค่ารักษาไม่ใช่น้อย ๆ เลย ดังนั้น มีประกันติดตัวไว้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ นอกจากนี้ ประกันโรคร้ายแรงยังช่วยให้เข้ารับการรักษาที่ดีที่สุดได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย
เป็นยังไงบ้างกับ 7 โรคร้ายแรงที่พบบ่อยในคนไทย ทุกโรคข้างต้นได้คร่าชีวิตคนไทยไปเยอะมากทุกปี แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเหล่ากู๊ดดี้ป้องกันได้ด้วยการใส่ใจสุขภาพ กินดี ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง แค่นี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก รวมทั้งอย่าลืมไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะ จะได้รู้ว่าร่างกายเรามีปัญหาอะไรมั้ย ถ้ามีจะได้รักษาแต่เนิ่น ๆ
และที่สำคัญ การทำประกันโรคร้ายแรงก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้รับมือกับโรคร้ายได้ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย มีเงินพร้อมรักษา ถ้าใครยังไม่มี ให้โบรกเกอร์ประกันอย่าง heygoody ช่วยดูแล! เรามีแผนประกันโรคร้ายแรงให้เลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ แอบกระซิบว่าเบี้ยประกันเริ่มต้นแค่หลักร้อยต่อปีเท่านั้น แวะมาเลือกดู หรือปรึกษาวิธีซื้อประกันโรคร้ายแรงได้ที่ LINE @heygoody พร้อมช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าสุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องดูแลเอาเอง ดูแลตัวเองดี ๆ ตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและอนาคตที่มั่นคงของตัวเองและครอบครัว!
ที่มา : Hfocus, โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลเปาโล และโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด