ถ้าเหล่ากู๊ดดี้กำลังมองหาวิธีการออมเงินที่มาพร้อมกับความคุ้มครองชีวิต บทความนี้อาจเป็นคำตอบที่เหล่ากู๊ดดี้กำลังตามหา เพราะ heygoody จะพาไปรู้จักกับ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกับการสะสมเงิน แล้วประกันสะสมทรัพย์มีข้อดียังไง เหมาะกับใครบ้าง? มาทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อประกัน!
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นแบบประกันที่ผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมเงิน ผู้เอาประกันจะได้รับทั้งความคุ้มครองชีวิตและเงินคืนทั้งในระหว่างสัญญา และเมื่อครบกำหนดสัญญา ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์แทน มีให้เลือก 2 แบบ คือ
มาดูกันต่อว่า ประกันสะสมทรัพย์มีข้อดีอะไรบ้าง
ข้อดีหลัก ๆ ของประกันสะสมทรัพย์ คือ การได้รับทั้งความคุ้มครองชีวิตและโอกาสในการออมเงินไปพร้อมกัน เหล่ากู๊ดดี้จะได้รับความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ขณะเดียวกันก็มีเงินก้อนรออยู่เมื่อครบกำหนดสัญญา
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์มักระบุรายละเอียดชัดเจนว่า จะจ่ายเงินคืนปีละกี่ % ของจำนวนเงินเอาประกันภัยทุกปี โดยไม่ผันผวนตามสภาวะทางเศรษฐกิจ ต่างจากการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูง
อีกหนึ่งข้อดีที่ใคร ๆ ก็ถูกใจ คือ เบี้ยประกันที่จ่ายสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด (สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี) ทำให้เหล่ากู๊ดดี้ประหยัดภาษีไปได้มาก นอกจากนี้ เงินที่ได้รับคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาก็ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้รับประโยชน์ทางภาษีแบบจัดเต็ม!
แม้ว่าประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำประกัน นั่นก็คือ ประกันสะสมทรัพย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุน ดังนั้น ผลตอบแทนที่ได้จึงอาจต่ำกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น การลงทุนในกองทุนรวม เหล่ากู๊ดดี้ที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าอาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นเพิ่มเติมนะ
แล้วใครล่ะ ที่เหมาะกับการทำประกันสะสมทรัพย์บ้าง
แน่นอนว่า ต้องเหมาะกับคนที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิตและการออมเงินในเวลาเดียวกัน เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้าทำประกันสะสมทรัพย์ เหล่ากู๊ดดี้จะได้รับประโยชน์สองทางจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว!
ใครที่ไม่ชอบความเสี่ยงในการลงทุน หรือไม่มีเวลาติดตามสภาวะตลาดการเงิน ประกันสะสมทรัพย์นี่แหละตอบโจทย์ที่สุด! เพราะให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและคาดการณ์ได้ เหล่ากู๊ดดี้จะรู้ล่วงหน้าว่าจะได้รับเงินคืนเท่าไหร่เมื่อครบกำหนดสัญญา ทำให้สามารถวางแผนการเงินในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาดการเงิน
ถ้าอยากวางแผนการเงินระยะยาว เช่น การเตรียมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ หรือการสร้างมรดกและทรัพย์สินให้กับครอบครัว ประกันสะสมทรัพย์เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก ๆ เพราะสามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้ ช่วยสร้างหลักประกันทางการเงินให้แก่ครอบครัวในระยะยาว
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสนใจประกันสะสมทรัพย์กันบ้างแล้ว วิธีเลือกให้เหมาะกับตัวเองง่ายนิดเดียว แค่พิจารณา 3 ข้อ ตามนี้เลย!
อันดับแรก ต้องคิดว่า เป้าหมายทางการเงินคืออะไร อยากได้ความคุ้มครองชีวิตในระดับไหน และต้องการเงินก้อนเท่าไหร่เมื่อครบกำหนดสัญญา ถ้าต้องการทำประกันเพื่อเก็บเงินก้อนสำหรับลงทุน ควรเลือกแผนประกันระยะยาว อย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีเวลาสะสมผลประโยชน์ได้มากพอสำหรับใช้จ่าย
ขั้นต่อไป คือการเปรียบเทียบแผนประกันจากหลาย ๆ บริษัท โดยดูรายละเอียดต่าง ๆ เช่น เงื่อนไขความคุ้มครอง จำนวนเงินเอาประกัน อัตราผลตอบแทน และเบี้ยประกัน ซึ่งข้อแนะนำในเบื้องต้น คือ เบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10-20% ของรายได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
เมื่อเลือกแผนประกันได้แล้ว เหล่ากู๊ดดี้ควรอ่านเงื่อนไขและผลประโยชน์อย่างละเอียด โดยเฉพาะข้อยกเว้นความคุ้มครอง และเงื่อนไขการจ่ายเงินคืน ตรงไหนไม่เข้าใจ แนะนำให้สอบถามโบรกเกอร์ประกัน หรือบริษัทประกันให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี ยังไงก็ตาม เหล่ากู๊ดดี้ควรประเมินความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของตนเองให้ชัดเจน เปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท และตรวจสอบเงื่อนไขอย่างละเอียด เพื่อให้ได้แผนประกันที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
สำหรับใครที่สนใจอยากทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ โบรกเกอร์ประกันอย่าง heygoody ก็ทำการบ้านมาให้แล้ว! สามารถมาเช็คค่าเบี้ยประกันและเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทประกันต่าง ๆ ได้ที่นี่ รับรองว่า มีประกันราคาดี ความคุ้มครองถูกใจให้เลือกซื้อแน่นอน กดซื้อเองได้ 24 ชม. กันไปเลย!
ที่มา : FWD
การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด