เปิดสิทธิประโยชน์สมรสเท่าเทียมล่าสุด ทำประกันให้กันได้ไหม

เหล่ากู๊ดดี้ที่ติดตามข่าวสารคงจะรู้กันแล้วว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมล่าสุดได้ผ่านความเห็นชอบและกำลังจะมีผลบังคับใช้แล้ว นับเป็นก้าวสำคัญของสังคมไทยที่เปิดโอกาสให้ความรักของทุกคนได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม วันนี้ heygoody จะพาเหล่ากู๊ดดี้มาอัปเดตกันว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการทำประกันที่จะช่วยให้เราดูแลคนที่รักได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น!

กฎหมายสมรสเท่าเทียมคืออะไร

กฎหมายสมรสเท่าเทียมล่าสุด เป็นกฎหมายที่เปิดโอกาสให้คนรักกันได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ซึ่งต่างจากกฎหมายเดิมที่จำกัดแค่ชาย-หญิงเท่านั้น นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้คู่รัก LGBTQ+ ได้รับสิทธิและการคุ้มครองเทียบเท่ากับคู่สมรสทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สิน มรดก หรือสวัสดิการต่าง ๆ

สมรสเท่าเทียมประกาศใช้เมื่อไหร่

เตรียมนับถอยหลังกันได้เลย! ใบสมรสเท่าเทียมจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มกราคาม 2568 เป็นต้นไป โดยบุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใด สามารถทำการหมั้นและสมรสได้ ซึ่งจะมีสถานะเป็น "คู่สมรส" แทนคำว่า "สามีภริยา" โดยต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ จะมีการปรับใช้ถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศมากขึ้น เช่น สามี-ภรรยา ปรับเป็น "คู่สมรส", ชาย-หญิง ปรับเป็น "บุคคล", บิดา-มารดา ปรับเป็น "บุพการี" เป็นต้น

สมรสเท่าเทียม ต่างกับ พ.ร.บ. คู่ชีวิต ยังไง

พ.ร.บ. คู่ชีวิต สมรสเท่าเทียม มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันอยู่ heygoody อธิบายแบบนี้ 

สมรสเท่าเทียม เป็นการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว ให้คู่รักทุกเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้ มีสิทธิเท่าเทียมกับคู่สมรสชาย-หญิงทุกประการ 

ส่วน พ.ร.บ. คู่ชีวิต เป็นกฎหมายที่ร่างขึ้นแยกต่างหากเพื่อรับรองสิทธิบุคคลเพศเดียวกันให้สามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตได้ แต่สถานะทางกฎหมายจะเป็น “คู่ชีวิต” ทำให้ให้อาจไม่ได้รับสิทธิบางประการเทียบเท่าคู่สมรส

ปัจจุบันประเทศไทยเลือกใช้แนวทางสมรสเท่าเทียมแทน พ.ร.บ.คู่ชีวิต เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมอย่างแท้จริง ไม่แบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติ ทำให้คู่รัก LGBTQ+ ได้รับการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับคู่สมรสทั่วไปทุกประการ

สิทธิประโยชน์ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ได้รับอะไรบ้าง

มาดูกันว่าเมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เหล่ากู๊ดดี้จะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง! นอกจากการจดทะเบียนสมรสที่ไม่จำกัดเพศแล้ว ยังมีสิทธิอีกมากมายที่จะทำให้ชีวิตคู่ของทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียม

• สิทธิด้านการเงินและทรัพย์สิน เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว คู่รักสามารถจัดการทรัพย์สินร่วมกัน รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม และมีสิทธิในการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรสได้ตามกฎหมาย
• สิทธิด้านการรักษาพยาบาล ไม่ต้องกังวลเวลาอีกฝ่ายป่วยแล้ว! สามารถเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาล เบิกค่ารักษาจากสวัสดิการรัฐ และรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมในฐานะคู่สมรสได้
• สิทธิด้านครอบครัว คู่รักสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน ให้บุตรใช้นามสกุลร่วมกันได้ และมีสิทธิในการเป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย
• สิทธิด้านกฎหมาย ได้รับความคุ้มครองในฐานะคู่สมรสตามกฎหมาย สามารถเป็นผู้จัดการมรดก จัดการศพ และดำเนินการทางกฎหมายแทนกันได้

คู่รัก LGBTQ+ ทำประกันชีวิตให้กันได้ไหม

จริง ๆ การทำประกันให้คนที่เรารัก เหล่ากู๊ดดี้สามารถระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นใครก็ได้ตามความต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นญาติหรือคนในครอบครัว เพราะถือเป็นการให้ด้วยความสมัครใจและตั้งใจ ซึ่งต่างจากเรื่องมรดกที่กฎหมายกำหนดทายาทไว้ชัดเจน ดังนั้นคู่รัก LGBTQ+ สามารถทำประกันและระบุคู่ชีวิตเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างสบายใจ โดยที่ครอบครัวของผู้ทำประกันไม่สามารถคัดค้านหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ได้

เงื่อนไขและเอกสารสำหรับทำประกันชีวิต

ต้องบอกก่อนว่า การเลือกให้ใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ บริษัทประกันจะค่อนข้างเข้มงวด เพื่อป้องกันการทำประกันเพื่อหวังเอาเงินประกัน ดังนั้นเลยมีเงื่อนไขบางอย่างและเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม ตามนี้เลย

• ผู้ทำประกัน และผู้รับผลประโยชน์ ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์​
• ต้องอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างน้อย 2 ปี​
• ต้องมีทะเบียนบ้านที่อาศัยอยู่ด้วยกัน​
• ต้องมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน หรือสัญญาซื้อหรือเช่าร่วมกัน​
• รูปงานแต่ง (ถ้ามี)​
• มีการเปิดบัญชีร่วมกัน ​
• ทะเบียนสมรสในประเทศที่รับรอง (ถ้ามี)​

และเอกสารอื่น ๆ ตามเงื่อนไขแต่ละบริษัทประกันฯ กำหนด ถ้ามีเอกสารครบถ้วนก็หมดห่วง คู่ชีวิตของเหล่ากู๊ดดี้ได้รับผลประโยชน์อย่างแน่นอน!

ประเภทประกันที่คู่รัก LGBTQ+ ควรพิจารณา

กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน ก็ถึงเวลาวางแผนดูแลอนาคตร่วมกันแล้ว เหล่ากู๊ดดี้ควรพิจารณาทำประกันเพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิตคู่ โดยประกันที่เหมาะกับกลุ่มคู่รัก LGBTQ+ ได้แก่

ประกันชีวิต

ประกันชีวิตเป็นแผนประกันที่ช่วยให้คู่รักวางแผนอนาคตร่วมกันได้อย่างมั่นใจ ครอบคลุมทั้งความคุ้มครองชีวิต เงินออม และผลประโยชน์ทางภาษี โดยสามารถระบุคู่ชีวิตเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อีกฝ่ายจะยังมีความมั่นคงทางการเงิน

ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพคู่รัก เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ทั้งคู่ใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล ด้วยความคุ้มครองครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ที่ต้องนอนโรงพยาบาล ค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) สำหรับการตรวจรักษาทั่วไป และค่าทันตกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพฟัน นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครองเพิ่มเติมอย่างค่าตรวจสุขภาพประจำปี ค่ารักษาในห้องฉุกเฉิน และค่ากายภาพบำบัด เหล่ากู๊ดดี้สามารถเลือกแผนความคุ้มครองให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของทั้งคู่ได้

ประกันอุบัติเหตุ

ประกันอุบัติเหตุ เป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ชีวิตคู่ ด้วยความคุ้มครองครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ เงินชดเชยรายวันกรณีต้องนอนโรงพยาบาล รวมถึงเงินก้อนกรณีทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ทำให้เหล่ากู๊ดดี้อุ่นใจได้ในทุกสถานการณ์

วางแผนอนาคตร่วมกันอย่างอุ่นใจกับประกันจาก heygoody

เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมล่าสุดเปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียม เหล่ากู๊ดดี้สามารถวางแผนอนาคตร่วมกันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น heygoody โบรกเกอร์ประกันยุคใหม่ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลความรักของเหล่ากู๊ดดี้ทุกคู่ ด้วยแผนประกันที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งประกันชีวิตบำนาญ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ หรือประกันด้านสุขภาพอย่างประกันมะเร็ง และประกันโรคร้ายแรง พร้อมโปรโมชันพิเศษ เฉพาะลูกค้า heygoody เท่านั้น ไม่แน่ใจเรื่องความคุ้มครองสามารถแอดไลน์ @heygoody มาปรึกษาเราได้เลย!

ที่มา : สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท), รัฐบาลไทย และไทยรัฐ