โรคไต โรคร้ายใกล้ตัวที่เปรียบเสมือนฆาตกรเงียบ เพราะในช่วงแรกแทบไม่มีสัญญาณเตือนเลย แต่อาการจะแย่ลงทีละนิด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ไตเสียหายไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น การรู้ทันอาการโรคไตจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ heygoody พาไปทำความเข้าใจโรคไตให้มากขึ้น มาเช็คไปพร้อมกันว่า อาการแบบไหน เสี่ยงโรคไตเรื้อรัง!
โรคไตคืออะไร
โรคไต (Kidney disease) คือภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ หรือทำงานได้น้อยลง โดยปกติไตจะทำหน้าที่กำจัดของเสียและสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย หลั่งฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด ควบคุมน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย เป็นต้น เมื่อไตทำงานได้น้อยลง จะทำให้ไม่สามารถกำจัดของเสีย หรือสารพิษออกจากร่างกายได้ ส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติ
โรคไตมีกี่ระยะ
โรคไตแบ่งเป็น 5 ระยะ ตามค่าการทำงานของไต (GFR) ตามนี้เลย
- ระยะที่ 1 ไตเริ่มเสื่อม มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ แต่ยังทำงานได้ตามปกติ ค่าการทำงานของไต 90% หรือมากกว่า
- ระยะที่ 2 ไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น ค่าการทำงานของไตเหลือ 60 - 90%
- ระยะที่ 3 ไตเรื้อรังระยะปานกลาง ค่าการทำงานของไตเหลือ 30 - 60%
- ระยะที่ 4 ไตเรื้อรังระยะรุนแรง ค่าการทำงานของไตเหลือ 15 – 30%
- ระยะที่ 5 ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ค่าการทำงานของไตน้อยกว่า 15%
สัญญาณเตือนอาการโรคไตเริ่มแรก
อาการโรคไตเริ่มแรก มีสัญญาณบอกอะไรบ้าง? มาเช็คไปพร้อมกัน
- ปวดหลังบริเวณใต้ชายโครงข้างกระดูกสันหลัง
- ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะกลางคืนบ่อย ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีฟองมาก เป็นต้น
- มีอาการบวมตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้า เท้า หรือตา เป็นต้น
- เบื่ออาหาร ขมปาก รับรสอาหารไม่ได้
- น้ำหนักลด หรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- มีจ้ำเลือดขึ้นตามตัวง่าย
- เป็นตะคริวบ่อย
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
ถ้าสังเกตเห็นความผิดปกติข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะถ้าปล่อยไว้ อาการอาจรุนแรงขึ้นจนภาวะไตล้มเหลว หรือที่เรียกกันว่า อาการไตวาย
พฤติกรรมแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคไต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างก็เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไตมากขึ้นด้วย เช่น
- ดื่มน้ำน้อย ร่างกายมีภาวะขาดน้ำจนทำให้ไตต้องทำงานหนัก
- น้ำหนักมาก หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) 30 ขึ้นไป
- เป็นโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะเบาหวานและความดัน
- รับประทานอาหารเค็ม อาหารสำเร็จรูป ซึ่งมีโซเดียมสูง
- ซื้อยารับประทานเอง ทั้งยาแผนปัจจุบัน และยาสมุนไพรบางชนิด ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของไต
- ออกกำลังกายน้อย ไม่ค่อยขยับเขยื้อนร่างกาย
- เครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก
ถ้าเหล่ากู๊ดดี้มีพฤติกรรมตรงกับที่ว่ามานี้ ถือว่ามีความเสี่ยงต่อโรคไตพอสมควรเลย ต้องหันมาปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้ดีต่อสุขภาพแล้วนะ
แนวทางการรักษาเมื่อวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคไต
แนวทางการรักษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามระยะของโรค ดังนี้
1. การชะลอความเสื่อมของไต
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ 1-4 ต้องชะลอความเสื่อมของไต เพื่อไม่ให้ไตเสื่อมลงเร็วกว่าปกติ และยืดระยะเวลาก่อนเข้าสู่โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายให้นานที่สุด การรักษาเพื่อชะลอการเสื่อมของไต มีดังนี้
- ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หรือเก๊าท์ ให้อยู่ในภาวะปกติ
- ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน งดอาหารเค็ม และควบคุมปริมาณโปรตีนให้เหมาะสม รวมทั้งควบคุมปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมให้อยู่ระดับปกติ ทั้งนี้ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีการจำกัดอาหารไม่เหมือนกัน ต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลเพิ่มเติม
- ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ออกกำลังกายเบา ๆ สม่ำเสมอ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
2. การรักษาด้วยวิธีบำบัดทดแทนไต
ถ้าเข้าสู่อาการไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ผู้ป่วยต้องรักษาด้วยวิธีบำบัดทดแทนไต ซึ่งมีด้วยกัน 3 วิธี ได้แก่
- การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) คือการนำเลือดของผู้ป่วยเข้าเครื่องไตเทียมเพื่อกรองของเสียออกจากเลือด จากนั้นนำเลือดที่สะอาดดีแล้ว กลับคืนสู่ร่างกายอีกครั้ง
- การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis) คือการใส่น้ำยาล้างไตเข้าไปในช่องท้อง เพื่อกรองของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากเลือด เมื่อครบเวลาจะปล่อยน้ำยาออกจากช่องท้องผ่านทางสายท่อล้างไต
- การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation) คือการนำไตจากผู้บริจาคไต ซึ่งผ่านการตรวจแล้วว่าเข้ากันได้ มาเปลี่ยนแทนไตเก่าของผู้ป่วยที่สูญเสียถาวรแล้ว ถือเป็นวิธีบำบัดทดแทนไตที่ให้ผลดีที่สุด
ป้องกันอย่างไรให้ไตมีสุขภาพดีแข็งแรง
เราสามารถป้องกันโรคไตได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ในชีวิตประจำวันเลย นั่นคือ
- รับประทานทานอาหารที่มีประโยชน์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6 - 8 แก้ว
- ลดอาหารเค็มจัด หรือแปรรูป
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ขยับร่างกายให้มากขึ้น ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ตรวจเช็คสุขภาพไตปีละครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
- ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา
- จัดการอารมณ์ความเครียดให้ดี ผ่อนคลายบ้าง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ สุรา และสารเสพติดทุกชนิด
ยิ้มสู้โรคไต ด้วยประกันโรคร้ายแรงจาก heygoody
ไม่มีใครอยากให้เกิดอาการโรคไตกับตัวเองและคนที่รัก แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ถือว่าเป็นภาระที่ไม่น้อยเลย เหล่ากู๊ดดี้ควรมีตัวช่วยรับมือกับความเสี่ยงอย่างประกันโรคร้ายแรง สัญญาความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงทั้งหมด 22 โรค เจอเมื่อไหร่จ่ายทันที ลดภาระทางการเงินในวันที่ต้องเผชิญกับฝันร้าย
อย่าปล่อยให้โรคไตกลายเป็นอุปสรรคในชีวิต เริ่มวางแผนด้วยประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่วันนี้ จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไร้กังวลไปกับ heygoody
ที่มา : โรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และ Rama Channel