ประกันน้ำท่วมคุ้มครองอะไรบ้าง เลือกแบบไหนคุ้มครองคลอบคลุม

น้ำท่วม เป็นภัยที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แค่ฝนตกหนักติดต่อกันไม่กี่วัน ก็อาจสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและทรัพย์สินได้แล้ว ใครที่เคยเจอน้ำท่วมมาก่อนคงรู้ดีว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่เรื่องทรัพย์สิน แต่ยังกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย วันนี้ heygoody เลยอยากแนะนำให้เหล่ากู๊ดดี้รู้จักกับประกันน้ำท่วม ตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้อุ่นใจได้ ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ไม่กังวล!

ประกันน้ำท่วมคืออะไร

ประกันน้ำท่วม ประกันอุทกภัยบ้าน หรือก็คือ ประกันบ้าน เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ทั้งน้ำท่วมจากธรรมชาติ น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมจากระบบระบายน้ำที่ไม่เพียงพอ โดยครอบคลุมทั้งตัวบ้าน ทรัพย์สินภายในบ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างซ่อมแซมบ้าน

การทำประกันน้ำท่วมบ้านจำเป็นแค่ไหน

การทำประกันน้ำท่วมบ้านถือเป็นการวางแผนรับมือความเสี่ยงที่ฉลาดสุด ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือเคยประสบปัญหาน้ำท่วมมาก่อน เพราะนอกจากความเสียหายต่อตัวบ้านและทรัพย์สินแล้ว น้ำท่วมยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจต้องย้ายออกจากบ้านชั่วคราว ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การมีประกันน้ำท่วมจึงช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้เร็วขึ้น

ประกันน้ำท่วมบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันน้ำท่วมบ้านให้ความคุ้มครองครอบคลุมหลายด้าน ทั้งตัวบ้าน ทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง มาดูรายละเอียดกัน

1. คุ้มครองสิ่งปลูกสร้าง

ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวบ้าน อาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่ระบุเอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น ประตู หน้าต่าง หลังคา รั้ว รวมถึงงานระบบต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม โดยบริษัทประกันจะชดเชยค่าซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ตามทุนประกันที่ระบุไว้

2. คุ้มครองทรัพย์สินภายใน

ครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ และของมีค่าต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม แต่ต้องระบุรายการและมูลค่าทรัพย์สินที่ต้องการเอาประกันให้ชัดเจน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวน

3. คุ้มครองการโจรกรรม

ประกันบ้านน้ำท่วมยังให้ความคุ้มครองกรณีเกิดการโจรกรรม โดยชดเชยความสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่เก็บอยู่ภายในอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ดังนั้น ในช่วงอพยพหนีน้ำท่วม หรือระหว่างที่บ้านถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เหล่ากู๊ดดี้ก็สบายใจได้ว่าทรัพย์สินจะได้รับการดูแล แม้ต้องย้ายออกจากบ้านชั่วคราว

4. เงินชดเชยการเสียชีวิต

ในกรณีที่เกิดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวเนื่องจากน้ำท่วม ประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับครอบครัว

ประกันน้ำท่วมบ้านราคาเท่าไหร่ แพงไหม

ราคาประกันน้ำท่วมบ้านจะแตกต่างกันตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น ทำเลที่ตั้ง ลักษณะบ้าน ทุนประกัน และความคุ้มครอง โดยมีตั้งแต่หลักพันต้น ๆ ​ ไปจนถึงหลักหมื่น​ อย่างประกันบ้านจาก heygoody เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 999 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดน้ำท่วมจริง

เทคนิคทำประกันน้ำท่วมให้ตอบโจทย์ คุ้มครองจริง

การเลือกประกันน้ำท่วมบ้านให้เหมาะสม จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย มาดูเทคนิคการเลือกกัน

1. เช็ครายละเอียดความคุ้มครอง

เรื่องแรกที่ต้องให้ความสำคัญ คือความแตกต่างระหว่าง "ภัยจากน้ำ" กับ "ภัยน้ำท่วม" เพราะหลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วต่างกันมาก! ภัยจากน้ำ คือความเสียหายที่เกิดจากน้ำ เช่น ท่อน้ำแตก น้ำรั่วซึม หรือฝนสาดเข้ามา แต่ภัยน้ำท่วม คือความเสียหายจากน้ำภายนอกที่ท่วมบ้าน ไม่ว่าจะมาจากน้ำฝน น้ำป่า หรือน้ำล้นตลิ่ง บางแผนประกันอาจคุ้มครองแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นต้องอ่านให้ดี ๆ ว่าครอบคลุมภัยไหนบ้าง

นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเพียบที่ต้องเช็คให้ถี่ถ้วน อย่างเช่น ระยะเวลารอคอย บางบริษัทอาจกำหนดให้ต้องรอ 7-14 วันก่อนถึงจะเคลมได้ รวมถึงขั้นตอนการเคลมและเอกสารที่ต้องใช้ด้วย บางที่อาจต้องถ่ายรูปความเสียหาย เก็บใบเสร็จค่าซ่อมแซม หรือต้องให้เจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายก่อน เรียกได้ว่า ยิ่งรู้รายละเอียดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบเวลาเคลมมากเท่านั้น!

2. กำหนดทุนประกัน

การกำหนดทุนประกันสำคัญมาก ๆ เพราะส่งผลโดยตรงต่อค่าสินไหมที่จะได้รับเมื่อเกิดความเสียหาย ถ้าเหล่ากู๊ดดี้กำหนดทุนประกันต่ำกว่ามูลค่าจริงของบ้านและทรัพย์สิน เวลาเคลมก็จะได้รับค่าสินไหมตามสัดส่วนนั้น ๆ เท่านั้น

ลองมาดูตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น สมมติว่าบ้านและทรัพย์สินมีมูลค่ารวม 2,000,000 บาท แต่เลือกทำประกันแค่ 1,200,000 ล้านบาท หรือ 60% ของมูลค่าจริง เมื่อเกิดน้ำท่วม ก็จะได้รับค่าสินไหมแค่ 60% ของความเสียหายทั้งหมด เช่น ถ้าความเสียหายอยู่ที่ 2,000,000 บาท ก็จะได้ค่าสินไหมแค่ 1,200,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ต้องรับภาระส่วนต่างเองถึง 800,000 บาท

แต่ในทางกลับกัน ถ้ากำหนดทุนประกันสูงเกินไป เช่น ทำประกัน 3,000,000บาท ทั้งที่บ้านและทรัพย์สินมีมูลค่าจริงแค่ 2,000,000 บาท ก็ไม่ได้ช่วยให้ได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมตามมูลค่าความเสียหายจริงเท่านั้น แถมยังต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงขึ้นโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

3. เลือกระยะเวลาคุ้มครอง

ประกันน้ำท่วมบ้านมีให้เลือก ตั้งแต่ 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี โดยถ้าเลือกทำประกันระยะยาวแบบ 3-5 ปี นอกจากจะไม่ต้องคอยต่ออายุกรมธรรม์บ่อย ๆ แล้ว ยังได้เบี้ยประกันที่ถูกลงกว่าแบบปีต่อปีอีกด้วย บอกเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ สำหรับใครที่วางแผนทำประกันระยะยาว!

รับมือน้ำท่วมบ้านอย่างมั่นใจ ด้วยประกันบ้านจาก heygoody

น้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมาก แต่การทำประกันน้ำท่วมบ้านจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ เหล่ากู๊ดดี้สามารถเลือกแผนประกันบ้านที่คุ้มครองภัยน้ำท่วมได้ที่ heygoody โบรกเกอร์ประกันที่คัดสรรแผนประกันคุ้มครองครอบคลุม ทั้งน้ำท่วม ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เบี้ยประกันเริ่มต้นไม่ถึงพัน แต่คุ้มครองสูงถึงหลักล้าน พร้อมบริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. อยากได้คำปรึกษา แอดไลน์ @heygoody มาได้เลย!

ที่มา : thinkofliving