เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมเบี้ยประกันสุขภาพของแต่ละคนถึงไม่เท่ากัน? บางคนจ่ายน้อย บางคนจ่ายเยอะ แถมบางทีก็หาประกันสุขภาพเบี้ยถูกยากเหลือเกิน วันนี้ heygoody พามาไขข้อข้องใจกันว่า อะไรบ้างที่เป็นตัวกำหนดค่าเบี้ยประกันสุขภาพของเรา และทำไมมันถึงแตกต่างกันไปในแต่ละคน
เบี้ยประกันสุขภาพก็คือเงินที่เราจ่ายให้บริษัทประกันเพื่อแลกกับความคุ้มครอง แต่ทำไมบางคนถึงได้จ่ายน้อยกว่าคนอื่น? มาดูกัน
เริ่มจากปัจจัยที่ชัดเจนที่สุดเลย นั่นก็คือ วงเงินความคุ้มครอง แต่ละกรมธรรม์ก็มีวงเงินไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการทางการแพทย์ ค่ายา ค่าผ่าตัด และค่าอื่น ๆ ยิ่งวงเงินคุ้มครองสูง เบี้ยประกันก็ยิ่งแพงขึ้นตามไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า เหล่ากู๊ดดี้ต้องเลือกวงเงินคุ้มครองต่ำ เพื่อจะได้จ่ายเบี้ยถูก ๆ เสมอไป บางทีการจ่ายเบี้ยเพิ่มนิดหน่อยเพื่อได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า อาจคุ้มค่ากว่าในระยะยาว โดยเฉพาะถ้ามีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูง
ประกันสุขภาพแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่ารักษาส่วนแรกเองก่อน แล้วถึงจะสามารถเคลมส่วนต่างที่เหลือจากประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้ ยิ่งเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเยอะ ค่าเบี้ยประกันยิ่งถูกลงประมาณ 25%-40% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน
ประวัติสุขภาพสำคัญมากในการกำหนดค่าเบี้ยประกัน บริษัทประกันจะพิจารณาประวัติสุขภาพของผู้เอาประกันอย่างละเอียด ถ้าเคยมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการรักษาโรคร้ายแรง เบี้ยประกันก็ย่อมสูงกว่าคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เพราะมีโอกาสใช้บริการทางการแพทย์บ่อยกว่านั่นเอง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว การมีประกันสุขภาพก็ยังคุ้มค่ากว่าการต้องจ่ายค่ารักษาเองทั้งหมดแน่นอน
เชื่อมั้ยว่า เพศก็มีผลต่อค่าเบี้ยประกันสุขภาพด้วย โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงมักจะจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพสูงกว่าผู้ชายเล็กน้อย เพราะจากสถิติของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า แม้เพศหญิงมีอายุยืนยาวกว่าเพศชาย แต่มีโอกาสเจ็บป่วย หรือสุขภาพไม่แข็งแรงมากกว่าผู้ชาย และเพศหญิงจะใช้เวลาฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยนานกว่าเพศชาย จึงอาจทำให้มีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่านั่นเอง
ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยก็ยิ่งสูงขึ้น ดังนั้น ค่าเบี้ยประกันสุขภาพก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมหลายคนถึงแนะนำให้ทำประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย หรือในขณะที่ยังมีสุขภาพดี เพราะนอกจากจะได้เบี้ยประกันที่ถูกกว่าแล้ว ยังมีโอกาสได้รับการอนุมัติง่ายกว่าด้วย เนื่องจากส่วนมากยังไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคที่เป็นข้อยกเว้นการให้ประกันของหลาย ๆ บริษัท
แต่ถ้าเหล่ากู๊ดดี้กำลังมองหาประกันสุขภาพเบี้ยไม่แพงในตอนที่อายุมากขึ้น ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะยังมีตัวเลือกดี ๆ อีกมากมาย เพียงแค่ต้องเปรียบเทียบและเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตัวเอง
อาชีพก็มีผลต่อค่าเบี้ยประกันสุขภาพเช่นกัน ลองนึกภาพง่าย ๆ คนที่ทำงานออฟฟิศกับคนที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ใครจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยจากการทำงานมากกว่ากัน? แบบนี้บริษัทประกันจึงต้องพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของผู้เอาประกันด้วย ถ้าทำงานที่มีความเสี่ยงสูง มีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บสูง เช่น วิศวกรคุมงานก่อสร้าง ช่างในโรงงาน หรืออาชีพที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย
ทั้งวงเงินความคุ้มครอง ค่าเสียหายส่วนแรก ประวัติสุขภาพ เพศ อายุ หรือแม้แต่อาชีพ ล้วนมีผลต่อการคำนวณค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้น heygoody แนะนำให้ดูแลสุขภาพและรีบทำตั้งแต่ยังอายุน้อย จะได้จ่ายเบี้ยประกันถูกกว่าซื้อตอนที่อายุมาก ยังไงก็ตาม การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมนั้น ต้องพิจารณาทั้งความคุ้มครองและราคาควบคู่กันไปด้วย เลือกประกันที่จ่ายได้ไม่ลำบาก และให้ความคุ้มครองครอบคลุมตามที่ต้องการถึงจะคุ้มค่าที่สุด
ใครกำลังมองหาประกันดีๆ ที่เว็บไซต์ heygoody ได้เลย เรามีทั้งประกันมะเร็ง และประกันโรคร้ายแรง ครบจบที่เดียว การันตีค่าเบี้ยคุ้มค่า ความคุ้มครองโดนใจ เปรียบเทียบเองง่าย ๆ ไม่มีโทรขายให้วุ่นวาย นึกถึงประกัน ต้อง heygoody โบรกเกอร์ประกันยุคใหม่ที่เข้าใจคุณ
ที่มา : วิริยะประกันภัย
การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด