ไม่ว่าปีไหน ๆ ญี่ปุ่นก็ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่จะไปทั้งที นอกจากต้องคิดให้ดีว่า จะเที่ยวญี่ปุ่นเดือนไหนดีแล้ว อีกเรื่องสำคัญก็คือจะไปเที่ยวที่ไหน เพราะญี่ปุ่นมีเมืองท่องเที่ยวมากมาย แต่ละที่ก็มีเสน่ห์แตกต่างกัน บทความนี้เลยรวบรวม 55 ที่เที่ยวญี่ปุ่น จากเมืองดังทั่วประเทศ มาให้เลือกแบบจัดเต็ม มาวางแผนทริปครั้งนี้ให้คุ้มค่าที่สุด!
ถ้าถามว่า เมืองน่าเที่ยวญี่ปุ่นคือเมืองไหน หนึ่งในลิสต์ต้องมีโตเกียวแน่นอน! เพราะโตเกียวเป็นเมืองหลวงที่ผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ที่เที่ยวญี่ปุ่นในโตเกียวจึงมีทั้งแลนด์มาร์คสุดฮิตและสถานที่อันซีนให้เหล่ากู๊ดดี้มาเช็คอิน
ย่านชิบูย่า แลนด์มาร์คของโตเกียวที่ขาดไม่ได้! ทางม้าลายชิบูย่าครอสซิ่งสุดอลังการที่ใครมาต้องถ่ายรูป รอบ ๆ มีห้างดังอย่าง Shibuya 109 ที่อยู่คู่กับย่านชิบูย่ามาอย่างเนิ่นนาน และร้านค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และร้านอาหาร เรียกได้ว่า ชอปกันจนกระเป๋าแบนแน่นอน และพลาดไม่ได้กับ Shibuya Sky บนอาคาร Shibuya Scramble จุดชมวิวพาโนรามา 360 องศาของเมืองโตเกียวสุดอลัง
วัดเซนโซจิ หรือ วัดโคมแดง เป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว โดดเด่นด้วยโคมไฟใหญ่สีแดงแขวนอยู่ประตูคามินาริ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิม นักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้ขอพร เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นถนนนากามิเสะที่เต็มไปด้วยร้านขนมและของที่ระลึกน่ารัก ๆ แอบกระซิบว่า ถ้ามาตอนกลางคืน คนจะน้อย ถ่ายรูปง่ายมาก แถมวัดยังเปิดไฟสว่างให้ยาว ๆ จนถึง 5 ทุ่มเลย
พระราชวังอิมพีเรียล ที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่นตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว ล้อมรอบด้วยคูน้ำและสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดให้เหล่ากู๊ดดี้เข้าชมฟรีบางส่วน ภายในมีสะพานนิจูบาชิ หรือสะพานแว่นตา แลนด์มาร์คญี่ปุ่นสุดฮิตที่คนนึกถึงเมื่อมาที่นี่ นอกจากนี้ภายในพระราชวังยังมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกที่หายากอีกด้วย ใครที่ชอบสถานที่สวยงามที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด
ตลาดปลาซึกิจิ เป็นสวรรค์ของคนรักอาหารทะเล ที่นี่มีการซื้อขายสินค้าจากทะเลกว่า 2,000 ตัน/วัน บริเวณตลาดภายนอกของตลาดมีร้านอาหารทะเลสด ๆ มากมาย เหล่ากู๊ดดี้สามารถลิ้มลองซูชิและซาชิมิระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ นอกจากอาหารทะเล ยังมีผลไม้ญี่ปุ่นน่ากินอีกเพียบ ทั้งเมลอนหวานฉ่ำ สตรอว์เบอร์รีลูกโต หรือผลไม้อบแห้งละลานตาไปทุกซอกซอยของพื้นที่ รับรองว่าสายกินต้องถูกใจ
โตเกียวทาวเวอร์ แลนด์มาร์คญี่ปุ่นสีแดงส้มสูง 333 เมตร ภายในประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ Foot Town, Main Deck และ Top Deck โดย Foot Town เป็นอาคาร 5 ชั้นบริเวณฐานของหอคอย มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ส่วน Main Deck เป็นจุดชมวิวที่ความสูง 150 เมตร มีพื้นกระจกสกายวอล์กให้เดินเล่น และ Top Deck จุดชมวิวที่ความสูง 250 เมตร สามารถชมวิวเมืองโตเกียวได้แบบ 360 องศา แชะรูปเด็ดเก๋ ๆ
ย่านฮาราจุกุ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นวัยรุ่นสุดจี๊ดของชาวญี่ปุ่น เหล่ากู๊ดดี้จะได้เห็นแฟชั่นสุดแปลกตาและร้านค้าสุดคิวต์มากมายบนถนนทาเคชิตะ มาเช็คอินที่นี่ต้องห้ามพลาดเครปญี่ปุ่นสุดอร่อย และของหวานสีสันสดใสที่ทำมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ ใครอยากได้รูปสวย ๆ ไว้อัปโซเชียลต้องห้ามพลาดที่นี่เลย!
ปิดท้ายโตเกียวด้วยสวนสนุก Tokyo Disneyland และ Tokyo DisneySea สวนสนุกระดับโลกที่มอบความสุขให้ทุกเพศทุกวัย ใครเป็นสาวกดิสนีย์ อยากดูขบวนพาเหรดจากเหล่าตัวละคร หรือชื่อชอบความเป็นเทพนิยาย ขอแนะนำให้ไป Tokyo Disneyland แต่ใครเป็นสายผจญภัย เน้นเล่นเครื่องเล่นแบบจัดเต็ม ขอแนะนำ DisneySea สวนสนุกธีมทะเลที่มัดรวมเครื่องเล่นจากหนังแนวแอคชันของดิสนีย์ ถูกใจแบบไหนก็เลือกได้เลย!
โอซาก้าเป็นเมืองแห่งอาหารและสีสันยามราตรี มีสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นหลากหลายสไตล์ที่พร้อมมอบความประทับใจให้เหล่ากู๊ดดี้ตลอดการเดินทาง
ย่านโดทงโบริ เป็นที่เที่ยวที่สายกินห้ามพลาดเมื่อมาโอซาก้า เหล่ากู๊ดดี้จะได้ลิ้มลองปูยักษ์ รางเม็งต้นตำรับ ทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ และของอร่อยอีกมากมาย ยามค่ำคืนบรรยากาศรอบ ๆ จะเต็มไปด้วยป้ายนีออนสุดอลังการที่อยู่บนตึก แต่ไฮไลต์ที่ใครมาต้องถ่ายรูป คือป้ายกูลิโกะบริเวณสะพานเอบิซู สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า เรามาถึงโอซาก้าแล้ว
ปราสาทโอซาก้า ปราสาทอลังการ 8 ชั้น ตั้งตระหง่านกลางเมือง เป็นสถานที่ที่ผสมผสานความสง่างามของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนนิชิโนมารุ ไม่ว่าจะมาเยือนช่วงซากุระบาน หรือใบไม้เปลี่ยนสี ก็สวยตราตรึงทุกมุม มาที่นี่แล้วเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคซามูไรของญี่ปุ่นยังไงยังงั้น!
คนรักสวนสนุกต้องไม่พลาด Universal Studios Japan ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดมันส์ที่รวมเอาโลกภาพยนตร์มาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Donkey Kong Country ของ Super Nintendo World โซนใหม่ล่าสุดที่จะพาเหล่ากู๊ดดี้เข้าสู่โลกของมาริโอแบบจัดเต็ม ส่วนแฟนพอตเตอร์ห้ามพลาดกับ Wizarding World of Harry Potter ที่จำลองฮอกวอตส์และหมู่บ้านฮอกส์มี้ดได้เหมือนในหนังมาก นอกจากนี้ยังมีโซนจากหนังดังเรื่องอื่นเพียบ
ตลาดคุโรมง สถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ได้ฉายา "ครัวของโอซาก้า" เพราะที่นี่มีร้านค้ากว่า 160 ร้าน ทั้งร้านของสด ร้านอาหาร ร้านของกินเล่น หรือร้านของพื้นเมือง ใครอยากกินซาชิมิสด ๆ ต้องห้ามพลาด ส่วนใครไม่กินของดิบแนะนำให้ลองชิมปลาปักเป้าย่าง หอยเชลล์ย่างเนย หรือกุ้งเทมปุระ รับรองว่า ฟินจนลืมไม่ลง เพราะของสดมาก!
เที่ยวเพลินจนค่ำ ลองแวะมาที่ ย่านชินเซไก ย่านเก่าแก่ที่ยังคงกลิ่นอายของโอซาก้าในยุค 1900s โดดเด่นด้วยหอคอยสึเท็นคาคุ (Tsutenkaku) และไฟนีออนสุดอลังการ ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อ โดยเฉพาะคุชิคัตสึ ของทอดเสียบไม้สไตล์โอซาก้า ใครอยากสัมผัสบรรยากาศเรโทรแบบญี่ปุ่นยุคโชวะ ต้องมาเดินเล่นที่นี่สักครั้ง
สะพานแขวนโฮชิโนะบุรังโกะ หรือสะพานแขวนชิงช้าแห่งดวงดาว มีความยาวถึง 280 เมตร และสูงประมาณ 50 เมตร เป็นจุดชมวิวพาโนรามาของอ่าวโอซาก้าที่สวยงาม เหล่ากู๊ดดี้สามารถเดินชมวิวเมืองโอซาก้าและสะพานอาคาชิไคเคียวจากมุมสูงได้ ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีบอกเลยว่า ถ่ายรูปสวยสุด ๆ
ไปกันต่อกับเกียวโต เมืองเก่าแก่ที่ยังคงรักษาความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เที่ยวญี่ปุ่นในเกียวโตจึงเต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้า และสถานที่เชิงวัฒนธรรมที่สวยงาม
ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ แลนด์มาร์คญี่ปุ่นขึ้นชื่อ ไฮไลต์คืออุโมงค์เสาโทริอิสีแดงนับพันต้นที่ทอดยาวขึ้นไปบนภูเขา เหล่ากู๊ดดี้จะได้เดินลอดผ่านประตูโทริอิที่เรียงรายสวยงาม ถ่ายรูปชิค ๆ และขอพรเรื่องการค้า ธุรกิจ และความสำเร็จจากเทพเจ้าอินาริ บางช่วงมีการจัดแสดงไฟพิเศษทำให้อุโมงค์โทริอิดูยิ่งมีเสน่ห์
สายธรรมชาติต้องมาที่ สวนป่าไผ่ สวนที่มีต้นไผ่สูงเสียดฟ้าเรียงรายสองข้างทาง สร้างบรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี แสงแดดที่ลอดผ่านป่าไผ่ทำให้ได้ภาพถ่ายสวย ๆ ที่มีเอกลักษณ์ แนะนำให้เหล่ากู๊ดดี้มาตอนเช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยว และซึมซับความสงบของที่นี่อย่างเต็มที่
วัดทองคินคะคุจิ วัดสีทองอร่ามตาที่สะท้อนเงาลงบนผืนน้ำ สร้างภาพที่สวยงามจนเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเกียวโต และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย บรรยากาศรอบ ๆ ก็มีความร่มรื่นและถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์ หลังจากชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเสร็จ ก็เดินเล่นต่อได้เลย ร่มรื่นสุด ๆ
ศาลเจ้าคิฟุเนะ เป็นศาลเจ้าลับ ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนภูเขาทางตอนเหนือของเกียวโต ไฮไลต์คือ บันไดหินที่เหมาะกับการถ่ายรูป ทั้งสองข้างเรียงรายไปด้วยโคมไฟสีแดง ขอบอกว่า สวยงามทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นตอนซากุระบาน ใบไม้แดง หรือหิมะขาวโพลน ยิ่งมาเยือนช่วงค่ำที่เปิดไฟ บรรยากาศยิ่งขลัง เหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย
วัดน้ำใส เป็นวัดมรดกโลกสุดอลังการที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โดดเด่นด้วยระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เหล่ากู๊ดดี้จะได้ชมวิวเมืองเกียวโตจากมุมสูง และดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 3 สายที่เชื่อว่าจะนำพาสุขภาพ ความสำเร็จในการเรียน และความรักที่ยืนยาว
ย่านฮิกาชิยาม่า เสน่ห์เกียวโตในแบบดั้งเดิมที่ยังคงกลิ่นอายญี่ปุ่นยุคโบราณ ด้วยตรอกซอกซอยปูหิน บ้านไม้เก่า และบรรยากาศสุดคลาสสิก ไฮไลต์คือ ถนนสายสำคัญอย่าง ซันเน็นซากะ-นิเน็นซากะ ที่เรียงรายไปด้วยร้านขนมพื้นเมือง คาเฟ่ และของฝากสุดน่ารัก เดินเล่นเพลิน ๆ จิบมัทฉะ ชมวิวเจดีย์ยาซากะ ยิ่งช่วงเย็นแสงไฟส่องสะท้อนบรรยากาศ ยิ่งสวยจับใจ!
ฮอกไกโดเป็นเกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นที่มีธรรมชาติสวยงามและเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบอากาศเย็นและกิจกรรมกลางแจ้ง
บ่อน้ำสีฟ้าอมเขียวสุดมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการสร้างเขื่อนกั้นภูเขาไฟ ไฮไลต์คือ น้ำสีฟ้าใสสดที่ดูเหมือนถูกโฟโต้ชอปมา ตอไม้ที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ สร้างบรรยากาศลึกลับแต่น่าหลงใหล น้ำจะเปลี่ยนสีตามฤดูกาล โดยจะเป็นสีฟ้าใสในฤดูร้อน และสีเขียวในฤดูใบไม้ผลิ สวยมากชนิดที่ว่า ถูกใช้เป็นวอลล์เปเปอร์ของ Apple มาแล้ว! ใครมาเที่ยวฮอกไกโด ห้ามพลาดเด็ดขาด
หุบเขานรกจิโงคุดานิ สถานที่เที่ยวญี่ปุ่นในอุทยานแห่งชาติชิโกะสึ-โทยะ บนเกาะฮอกไกโด เป็นหุบเขาที่เกิดจากปล่องภูเขาไฟระเบิด ทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดจำนวนมาก สามารถเอาเท้าแช่บ่อน้ำพุร้อนได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางตามหุบเขาให้เดินไต่เนินขึ้นไปด้วย ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเจอกับใบไม้สีส้มทั่วบริเวณ สวยสุด ๆ
ริมคลองโอตารุ ที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดฮิตของเมืองโอตารุ เมื่อก่อนเป็นโกดังอิฐเก่าแก่ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ เหล่ากู๊ดดี้สามารถแวะมาเดินเล่นเพลิน ๆ ได้ บางสัปดาห์จะเจอกับผลงานศิลปะของเหล่าศิลปิน ยามค่ำคืนมีการจุดโคมไฟโบราณริมคลอง สร้างภาพสะท้อนบนผิวน้ำที่สวยงาม
หอคอยโกเรียวคาคุ เป็นหอสังเกตการณ์สูง 107 เมตร ตั้งอยู่เคียงข้างป้อมโกเรียวคาคุ ป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกที่มีชื่อเสียงในฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด มาที่นี่นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของป้อมปราการรูปดาวแล้ว ยังเห็นทิวทัศน์โดยรอบของเมืองฮาโกดาเตะ ทั้งภูเขาฮาโกะดาเตะ ช่องแคบสึการุ และเทือกเขาโยโกตสึได้ชัดเจน
ทะเลสาบขนาดใหญ่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ และเป็นทะเลสาบที่น้ำใสเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น โอบล้อมด้วยภูเขาและเกาะกลางน้ำ ไฮไลต์คือ วิวภูเขาโชวะชินซัน และโชว์ดอกไม้ไฟสุดอลังการในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นติดริมทะเลสาบ ให้แช่น้ำร้อนพร้อมชมวิวสุดผ่อนคลาย เป็นจุดหมายที่เหมาะกับทุกฤดูกาล!
โจซังเคออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นในอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ ล้อมรอบด้วยป่าเขาที่สวยงาม อยู่ห่างจากซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมง เหล่ากู๊ดดี้จะได้แช่น้ำแร่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ฤดูใบไม้ร่วงที่นี่สวยสุด ๆ เพราะภูเขาทั้งลูกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สวยอลังการ หรือถ้าเป็นหน้าหนาว มาแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะก็โรแมนติกไม่แพ้กัน!
ยามานาชิเป็นจังหวัดที่มีภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น และมีที่เที่ยวญี่ปุ่นธรรมชาติสวยงามมากมาย ตามนี้เลย
ภูเขาไฟฟูจิ แลนด์มาร์คญี่ปุ่นอันดับหนึ่งที่ใคร ๆ ก็อยากเห็นสักครั้งในชีวิต มีลักษณะเป็นยอดเขารูปกรวยสมมาตรที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน โอบล้อมด้วยทะเลสาบและธรรมชาติอันตระการตา ไม่ว่าจะชมจากจุดไหนก็ดูอลังการ ไฮไลต์คือ การชมวิวจากทะเลสาบคาวากุจิโกะ หรือปีนเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงฤดูร้อน ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นสักครั้ง ต้องไม่พลาดสัมผัสเสน่ห์ของฟูจิซัง!
ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นหนึ่งใน 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิที่ให้วิวภูเขาไฟฟูจิสวยที่สุด เหล่ากู๊ดดี้จะได้ถ่ายรูปกับทุ่งลาเวนเดอร์ หรือทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลโดยมีฟูจิซังเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้สนุกอีกเพียบ ทั้งพายเรือในทะเลสาบชมเงาสะท้อนฟูจิแบบโรแมนติก หรือนั่งกระเช้าคาจิคาจิขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของทะเลสาบจากมุมสูง บรรยากาศดีขนาดนี้ ไม่มาไม่ได้แล้ว!
สวรรค์ของสายเอ็กซ์ตรีมที่ต้องมาท้าความเสียว ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เหล่ากู๊ดดี้ได้เล่นเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวพร้อมวิวฟูจิซังสุดอลัง ไฮไลต์คือ รถไฟเหาะระดับโลกอย่าง Fujiyama และ Takabisha ที่มีความชัน 121 องศา นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับคนรักกันดั้ม โซนธีมอนิเมะดัง และบ้านผีสิงสุดสยอง ใครชอบความตื่นเต้น บอกเลยว่าต้องมา
เจดีย์ชูเรโตะ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คยอดฮิตของญี่ปุ่น ที่มักปรากฏบนโปสต์การ์ดและภาพโปรโมตท่องเที่ยว ด้วยวิวสุดตระการตาของเจดีย์สีแดง 5 ชั้น ที่ตัดกับฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ยิ่งมาในช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี ความสวยยิ่งทวีคูณ ไฮไลต์คือ ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 400 ขั้นเพื่อไปชมวิวพาโนรามาสุดอลังการ รับรองว่าคุ้มเหนื่อย!
หมู่บ้านเล็ก ๆ สุดน่ารักที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ มีบ่อน้ำใสแจ๋วจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ เหล่ากู๊ดดี้จะได้ชมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ 8 บ่อที่ว่ากันว่า ดื่มแล้วจะมีอายุยืนยาว นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นให้ลิ้มลองเมนูเด็ดอย่างปลาเทราต์ย่างเกลือและวาซาบิสด และปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปกับฉากหลังภูเขาไฟฟูจิสุดปัง
ทะเลสาบยามานากะโกะ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ไฮไลต์คือ กิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ พายเรือคายัค หรือแช่ออนเซ็นพร้อมชมวิวภูเขา นอกจากนี้ ในฤดูหนาวยังมี Diamond Fuji ปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ตกดินพอดีกับยอดฟูจิ สวยจนต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง
ฟุกุโอกะเป็นเมืองในญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชู มีแลนด์มาร์คญี่ปุ่นและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายให้เหล่ากู๊ดดี้ได้เช็คอิน
ย่านเมืองเก่าฮากาตะ ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมของฟุกุโอกะ เหล่ากู๊ดดี้จะได้เดินชมถนนโบราณ ร้านค้าเก่าแก่ สัมผัสบรรยากาศย้อนยุค ลิ้มลองราเม็งฮากาตะสูตรต้นตำรับและขนมดั้งเดิมอย่างเมนไทโกะ เรียกได้ว่า เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ไม่ควรพลาด
ศาลเจ้าชื่อดังแห่งฟุกุโอกะ ที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะ สุกาวาระ มิจิซาเนะ เทพเจ้าแห่งปัญญาและการศึกษา เหล่ากู๊ดดี้ที่อยากขอพรเรื่องการเรียนต้องไม่พลาด! ไฮไลต์ของที่นี่คือ สะพานแดงกลางสวนสวย และต้นบ๊วยกว่า 6,000 ต้นที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ห้ามพลาดขนมอุเมะกาเอะโมจิ ขนมปังย่างไส้ถั่วแดงสุดขึ้นชื่อ ที่ต้องลองสักครั้งเมื่อมาเยือน
เกาะเล็ก ๆ ใจกลางเมืองฟุกุโอกะที่คึกคักที่สุดในยามค่ำคืน เหล่ากู๊ดดี้จะได้สัมผัสเสน่ห์ของยาไต (รถเข็นขายอาหาร) ที่เรียงรายริมแม่น้ำ ลิ้มลองราเม็ง ฮากาตะ หรือโอเด้งร้อน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล นอกจากนี้ ยังมีบาร์และร้านอาหารสุดฮิปให้เลือกนั่งชิล แถมเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตกับป้ายนีออนสะท้อนน้ำที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ในหนังญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ไฮไลต์ของที่นี่ คือถนนแห่งแสง (Path of Light) ที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงจากศาลเจ้า ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์จะส่องตรงผ่านแนวของศาลเจ้าและถนนที่ทอดยาวไปยังทะเล ขอบอกว่า สวยจนต้องตะลึง นอกจากนี้ ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะยังเป็นที่ประดิษฐานของเชือกชิเมะนะวะขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเชือกชิเมะนะวะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ไปกันต่อที่ นาโกย่า เมืองในญี่ปุ่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 มีที่เที่ยวญี่ปุ่นหลากหลายผสมผสานความทันสมัยและประวัติศาสตร์เข้าด้วยกัน heygoody คัดมาให้แล้ว 3 ที่ ตามไปปักหมุดกันได้เลย!
ไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนาโกย่า เพราะเป็นปราสาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ ตัวปราสาทใหญ่โตอลังการ มีคินชาจิ หรือปลาหัวสิงห์สีทองอร่ามบนหลังคา เป็นสัญลักษณ์เด่นที่เห็นแต่ไกล ภายในปราสาทก็มีนิทรรศการให้ดูเพียบ ทั้งดาบ ชุดเกราะ และข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน หรือจะเดินเล่นในสวนก็ร่มรื่น ถ่ายรูปสวย ๆ ได้ทุกมุม
หุบเขาโครังเค สถานที่เที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ขอบอกว่าสวยตะโกน เพราะทั้งหุบเขาจะกลายเป็นสีแดง เหลือง และส้มแบบละลานตา นอกจากเดินเล่นชมวิวสวย ๆ แล้ว แถวนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารให้แวะชิมแวะชอปด้วยนะ ใครอยากหาที่ฮีลใจ ใกล้ชิดธรรมชาติแบบไม่ต้องเดินทางไกลจากเมืองใหญ่ แนะนำหุบเขาโครังเคเลย
แลนด์มาร์คสุดล้ำใจกลางเมืองนาโกย่า มีดีไซน์สุดเก๋ไก๋เหมือนยานอวกาศลอยฟ้า ที่ใครเห็นเป็นต้องรีบคว้ากล้องมาถ่ายรูปเช็คอิน จุดเด่นของที่นี่ก็คือ เรือมิสึ โนะ อุชู หลังคาแก้วขนาดใหญ่ที่เราสามารถเดินเล่นชมวิวเมืองแบบพาโนรามาได้ แถมยังมีลานกินกะ สวนสามมิติใต้ดิน ที่มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกชอป ชมเพียบ ใครมาเที่ยวนาโกย่า ต้องแวะมาสัมผัสความชิค ๆ คูล ๆ ที่โอเอซิส 21 แห่งนี้ให้ได้
ใครที่รักการผจญภัย อยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ หรืออยากจะหลีกหนีความวุ่นวายขอแนะนำ นากาโน่ จังหวัดหนึ่งในภูมิภาคชูบุที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง มีที่เที่ยวญี่ปุ่นทางธรรมชาติที่สวยงามและสถานที่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็นปราสาทโบราณสีดำเก่าแก่ที่ได้รับการขนานนามว่า "ปราสาทอีกา" เพราะภายนอกเป็นสีดำเกือบทั้งหลัง ตัดกับฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันงดงาม นอกจากความสวยงามของตัวปราสาทแล้ว สวนรอบปราสาทยังเป็นจุดชมวิวที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
สายรักธรรมชาติต้องไม่พลาด คามิโคจิ แหล่งท่องเที่ยววิวสุดอลัง อยู่ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เหล่ากู๊ดดี้จะได้สัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เดินเล่นบนสะพานคัปปะบาชิที่ทอดข้ามแม่น้ำอาซุสะสีเขียวมรกต และชมวิวภูเขาโฮตากะที่สวยงาม แนะนำให้ไปช่วงฤดูร้อนและใบไม้เปลี่ยนสี เพราะที่นี่เปิดให้เข้าชมในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
สวนลิงจิโกคุดานิ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาจิโกคุดานิ เหล่ากู๊ดดี้จะได้พบกับลิงหิมะญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ไฮไลต์ของที่นี่คือ ภาพฝูงลิงที่ลงมาแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะในฤดูหนาว ซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยากและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่แนะนำให้ศึกษาข้อมูลและข้อปฏิบัติในการเข้าชมสวนก่อน จะได้เยี่ยมชมได้อย่างราบรื่นและไม่รบกวนเหล่าลิง
สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนซากปรักหักพังของปราสาททาคาโตะ ปัจจุบันสวนแห่งนี้มีต้นซากุระพันธุ์ทาคาโตะโคฮิงางกว่า 1,500 ต้น ที่จะบานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนเมษายน ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่รายล้อมอยู่โดยรอบอีกด้วย
กิฟุตั้งอยู่เกือบใจกลางของญี่ปุ่น โดยอยู่ระหว่างโตเกียวกับเกียวโต และอยู่ทางตอนเหนือของเมืองนาโกย่า มีที่เที่ยวญี่ปุ่นทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง
หมู่บ้านมรดกโลกที่มีบ้านหลังคาสูงทรงกัสโชซึคุริ (รูปร่างคล้ายมือพนม) เรียงรายกันอย่างน่ารักท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี นอกจากมาเดินเล่นชมบ้านเรือนโบราณแล้ว ยังมีร้านค้าขายของที่ระลึกน่ารัก ๆ ร้านอาหารท้องถิ่นให้ลองชิม และกิจกรรมเวิร์กชอปให้ทำอีกด้วย ใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรืออยากได้รูปสวย ๆ ไว้ลงโซเชียล ชิราคาวาโกะเป็นที่ที่ตอบโจทย์แน่นอน
ฮิดะทาคายามะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เกียวโตน้อย" เพราะความสวยงามของเมืองเก่าที่ยังคงกลิ่นอายของสมัยเอโดะไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สถานที่ฮิต ๆ ก็ย่านเมืองเก่าซันมะจิ ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิม ร้านค้าขายงานฝีมือ ร้านอาหารท้องถิ่น และโรงกลั่นเหล้าสาเก ให้เหล่ากู๊ดดี้ได้เดินเล่นชมเมือง ซื้อของที่ระลึก และลิ้มลองรสชาติอาหารฮิดะแท้ ๆ
นิกโก้ เมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดโทชิงิ อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร ที่นี่มีทั้งสถานที่เที่ยวญี่ปุ่นธรรมชาติและวัฒนธรรมเก่าแก่ จนถูกยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก
สะพานสีแดงสดสะดุดตาทอดตัวข้ามแม่น้ำไดยากาวะ เป็นจุดถ่ายรูปที่ใครมานิกโก้ก็ต้องเช็คอิน ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สีสันของธรรมชาติที่รายล้อมสะพานยิ่งสวยงามจนแทบหยุดหายใจ เหล่ากู๊ดดี้สามารถเดินข้ามไปมาเพื่อชมวิว และถ่ายรูปสวย ๆ บนสะพานไว้อัปโซเชียลก็ปัง
หมู่บ้านแห่งนี้จำลองบรรยากาศและวิถีชีวิตในสมัยเอโดะได้อย่างสมจริง ซึ่งมีบ้านเรือนโบราณ ร้านค้าขายของที่ระลึก และการแสดงต่าง ๆ ที่จะทำให้เพลิดเพลินจนลืมเวลา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย เช่น ใส่ชุดกิโมโน เดินเล่นชมเมือง หรือลองฝึกซ้อมเป็นนินจา ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรืออยากหาที่เที่ยวสนุก ๆ กับครอบครัว ไม่ควรพลาดที่นี่
ไซตามะเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับโตเกียว มีที่เที่ยวญี่ปุ่นทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สามารถเดินทางไปกลับจากโตเกียวได้ในวันเดียว
ย่านคาวาโกเอะ หรือ "ลิตเติ้ลเอโดะ" ย่านเมืองเก่าที่ยังคงกลิ่นอายของสมัยเอโดะไว้อย่างสมบูรณ์ เหล่ากู๊ดดี้จะได้เดินเล่นบนถนนคุราซึคุริที่มีโกดังเก่าสีดำเรียงราย ดื่มด่ำกับบรรยากาศย้อนยุค เยี่ยมชมหอระฆังโทคิโนะคาเนะที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และชอปปิงขนมแบบดั้งเดิมที่ถนนขนมหวานคันดะทสึ
ฮิโรชิม่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์สำคัญและมีที่เที่ยวญี่ปุ่นทางธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะบริเวณทะเลในเซโตะ
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ เป็นศาลเจ้ามรดกโลกบนเกาะมิยาจิมา โดดเด่นด้วยประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเล ช่วงน้ำขึ้นแนะนำให้นั่งเรือชมอ่าว ซึ่งเรือจะขับลอดเสาโทริอิกลางทะเล ให้เหล่ากู๊ดดี้ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังสามารถเดินเล่นชมวิวทะเล นั่งจิบชาเขียวในร้านน้ำชา หรือจะลองชิมหอยนางรมสด ๆ ก็ฟินอย่าบอกใครเชียว!
หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มาสัมผัสความสงบและศิลปะที่วัดโคซันจิกัน! วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะอิคุจิจิมะ สามารถมองเห็นวิวทะเลเซโตะได้แบบพาโนรามา ไฮไลต์ของที่นี่คือ สวนขนาด 5,000 ตารางเมตรที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้ชมผลงานของศิลปินชื่อดังอีกด้วย ใครที่ชอบงานศิลปะ สถาปัตยกรรม หรืออยากหาที่พักผ่อนจิตใจ วัดโคซันจิตอบโจทย์แน่นอน
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการทิ้งระเบิดปรมาณูในปี 1945 เหล่ากู๊ดดี้จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และผลกระทบของสงคราม พร้อมชมอาคารโดมปรมาณูที่ยังคงหลงเหลือจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ใครที่ชอบประวัติศาสตร์อยู่แล้ว ต้องมาสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวัง
ที่มารูปภาพ : MATCHA สื่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
อยากชมวิวฮิโรชิม่าแบบ 360 องศา ต้องขึ้นมาที่โอริซึรุ ทาวเวอร์ ที่นี่ไม่ได้มีแค่จุดชมวิวธรรมดา ๆ แต่ยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ทั้งพับนกกระเรียนกระดาษ แล้วโยนลงในกำแพงโอริซึรุ หรือจะนั่งชิลจิบกาแฟในคาเฟ่ พร้อมชมวิวสวย ๆ ก็ฟินอย่าบอกใคร แถมยังอยู่ใกล้กับสวนสันติภาพและโดมปรมาณูอีกด้วย มาที่เดียวได้ทั้งชมวิว ได้ทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ครบจบในที่เดียว!
ปราสาทสีดำสง่างามที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า โดยได้รับการบูรณะหลังถูกทำลายจากระเบิดปรมาณู ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮิโรชิม่าให้ชมกันแบบจุใจ แถมยังมีสวนสวย ๆ ให้เดินเล่นพักผ่อน และเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย ถ้าชอบประวัติศาสตร์ หรืออยากได้รูปไว้ลงโซเชียล ต้องมาเช็คอินที่นี่
ที่มารูปภาพ : Joy in HIROSHIMA
สายเรือรบต้องห้ามพลาด! ที่นี่จะได้พบกับเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่จอดโชว์อยู่กลางพิพิธภัณฑ์ พร้อมเรียนรู้เรื่องราวของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นผ่านนิทรรศการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ ให้โพสต์ท่าเท่ ๆ อีกเพียบ ใครที่ชอบเรื่องเรือรบ หรืออยากได้รูปที่ไม่ซ้ำใคร ต้องมาที่นี่เลย
เกาะศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ มาที่นี่ต้องถ่ายรูปกับเสาโทริอิสีแดงกลางทะเล สัญลักษณ์ของเกาะมิยาจิมะ แวะทักทายกวางน้อยที่เดินเพ่นพ่านทั่วเกาะ จากนั้นก็เดินเล่นชมศาลเจ้าอิสึกุชิมะอันโด่งดัง หรือจะลองชิมหอยนางรมสด ๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อของเกาะก็ฟินสุด ๆ และห้ามพลาดขนมใบเมเปิ้ลสอดไส้ถั่วแดงที่อบสด ๆ หอมกรุ่น อร่อยจนต้องซื้อกลับบ้าน
ฟาร์มเซระโคเก็น เป็นฟาร์มดอกไม้ขนาดใหญ่บนเนินเขา เหล่ากู๊ดดี้จะได้ชมดอกไม้หลากหลายสีสันที่บานสะพรั่งตลอดทั้งปี มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกทิวลิป ทุ่งดอกทานตะวัน หรือทุ่งดอกป๊อปปี้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย เช่น เก็บผลไม้ตามฤดูกาล ขี่จักรยานชมวิว หรือลองชิมไอศกรีมดอกไม้ เรียกได้ว่า เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นสุดชิลที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ
55 ที่เที่ยวญี่ปุ่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะประเทศญี่ปุ่นยังมีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้เหล่ากู๊ดดี้ไปสัมผัส ไม่ว่าจะชอบธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร หรือความทันสมัย ญี่ปุ่นก็มีครบ และเมื่อได้ที่เที่ยวถูกใจแล้ว รีบลงทะเบียน Visit Japan Web และกดเซฟแผนที่รถไฟญี่ปุ่นเอาไว้เลย เพื่อการเดินทางที่สะดวก ราบรื่นตลอดทั้งทริป!
ก่อนออกเดินทาง อย่าลืมเตรียมความพร้อมด้วยประกันการเดินทางต่างประเทศจาก heygoody ที่จะดูแลเหล่ากู๊ดดี้ตลอดทริปอย่างครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล เที่ยวบิน กระเป๋าเดินทาง และทรัพย์สินส่วนตัว เจ็บป่วยแค่ไหนก็ไม่ต้องสำรองจ่าย ในเริ่มต้นไม่กี่ร้อยบาทแต่คุ้มครองสูงถึงหลักล้าน เที่ยวญี่ปุ่นอุ่นใจหายห่วง เช็คอินทุกแลนด์มาร์คแบบไร้กังวลไปกับ heygoody
ที่มา : youtrip