การเสียชีวิตของ บาร์บี้ ซู (Barbie Hsu) หรือ ต้าเอส นักแสดงชื่อดังชาวไต้หวันจากภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่น ทำให้หลายคนเริ่มตระหนักถึงความรุนแรงของโรคนี้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูหนาว ไข้หวัดใหญ่จะระบาดหนักทุกปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะถ้าป่วยขึ้นมา อาจเผชิญทั้งค่าใช้จ่ายมหาศาลและความยุ่งยากในการเข้ารับการรักษา
วันนี้ heygoody เลยสรุปวิธีรับมือเมื่อป่วยที่ญี่ปุ่น ทั้งป่วยไข้หวัดใหญ่ หรือป่วยโรคอื่น ๆ ให้เหล่ากู๊ดดี้ได้เตรียมตัวกันแบบอุ่นใจ
ในช่วงปลายปี 2024 จนถึงต้นปี 2025 การระบาดของไข้หวัดใหญ่ญี่ปุ่นทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่า รุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 9.5 ล้านคน และอัตราการติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 66,132 คน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ผู้ป่วยเพิ่มสูง โรงพยาบาลหลายแห่งไม่รับคนเพิ่ม ถ้าอาการไม่หนัก
นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมตัวให้พร้อม ติดตามข่าวสารด้านสาธารณสุขและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก่อนการเดินทาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
หลังจากมีข่าวการเสียชีวิตของต้าเอส ทำให้หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับระบบการรักษาพยาบาลของประเทศญี่ปุ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
ดังนั้นก่อนจะไปดูวิธีรับมือเมื่อป่วยที่ญี่ปุ่น heygoody ขอพาไปทำความเข้าใจระบบการรักษาพยาบาลของญี่ปุ่นก่อน เพราะมีความแตกต่างจากประเทศไทยอยู่พอสมควร ทั้งเรื่องขั้นตอน การจ่ายยา และค่าใช้จ่าย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ร้านขายยาในญี่ปุ่นแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ Drug Store ที่ขายทั้งยาสามัญ เครื่องสำอาง และของใช้ทั่วไป สามารถซื้อยากับเภสัชกรได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบรับรองแพทย์ หรือใบสั่งยา กับร้านขายยาที่ต้องใช้ใบสั่งยา โดยเฉพาะเมื่อป่วยที่ญี่ปุ่น
เหล่ากู๊ดดี้จะต้องเข้าใจว่า ระบบการจ่ายยาที่นี่จะแยกออกจากโรงพยาบาลโดยสิ้นเชิง แม้จะไปหาหมอ เราก็ต้องนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาแยกต่างหาก ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำแนะนำการใช้ยาอย่างละเอียด พร้อมบันทึกประวัติการใช้ยาลงในสมุดประจำตัวเพื่อป้องกันการใช้ยาซ้ำซ้อน
โรงพยาบาลญี่ปุ่นมีทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ โดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะมีเตียงรองรับผู้ป่วยเยอะ มีแผนกเฉพาะทางครบครัน พร้อมให้บริการตั้งแต่การผ่าตัดไปจนถึงการรักษาโรคซับซ้อน ส่วนใหญ่จะมีล่ามหรือพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ทำให้ชาวต่างชาติเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น แต่อาจต้องรอคิวนานถ้าไม่ได้นัดล่วงหน้า
ส่วนคลินิกจะเป็นสถานพยาบาลขนาดเล็กที่มีเตียงไม่เกิน 19 เตียง เน้นรักษาอาการเจ็บป่วยทั่วไป คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเลือกไปคลินิกก่อนเป็นอันดับแรกเมื่อมีอาการไม่สบาย ถ้าอาการรุนแรงเกินความสามารถของคลินิก แพทย์จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ยังไงก็ตาม อย่าลืมเช็คให้ชัวร์ว่า คลินิกที่จะเข้ารับบริการเป็นคลินิกเฉพาะทางกับความเจ็บป่วยที่เราไหม ไม่งั้นอาจถูกปฏิเสธการรักษาได้
สำหรับกรณีฉุกเฉินที่ต้องเรียกรถพยาบาลในญี่ปุ่น เหล่ากู๊ดดี้สามารถโทร 119 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เมื่อโทรไป ให้แจ้งว่าต้องการรถพยาบาลด้วยคำว่า "คิวคิว" (救急) เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับพื้นฐาน พยายามอธิบายอาการและตำแหน่งที่อยู่ให้ชัดเจน
เมื่อป่วยที่ญี่ปุ่น มาดูกันว่าควรทำรับมือยังไงในแต่ละกรณี
ถ้ามีอาการป่วยเล็กน้อย เช่น ไข้หวัด ปวดท้อง หรือเจ็บปวดเล็กน้อย สามารถเข้าไปซื้อยา หรือขอคำแนะนำจากเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาทั่วไปในละแวกใกล้เคียงได้เลย แต่ถ้าต้องการพบแพทย์ที่โรงพยาบาลญี่ปุ่น ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย
ถ้าเกิดอาการป่วยฉุกเฉิน เช่น หายใจไม่ออก เจ็บปวดอย่างรุนแรง หรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย
ค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ที่ไม่มีประกันสุขภาพญี่ปุ่น (NHI) ค่ารักษาต้องจ่ายเต็ม เช่น
คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับเหล่ากู๊ดดี้ คืออย่าลืมซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้
แม้ญี่ปุ่นมีระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพสูง แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่นักท่องเที่ยวควรรู้ ดังนี้
ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่แบบนี้ เหล่ากู๊ดดี้ควรเตรียมตัวให้พร้อม!
อ่านมาถึงตรงนี้ คงพอจะเห็นภาพว่า การรักษาพยาบาลในญี่ปุ่นยุ่งยากกว่าที่ไทยเยอะ แถมค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย การมีประกันเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจะช่วยให้เหล่ากู๊ดดี้อุ่นใจ ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาเมื่อป่วยที่ญี่ปุ่น
heygood มัดรวมแผนประกันเดินทางต่างประเทศสุดคุ้มจาก 3 บริษัทประกันมาแนะนำ รับรองว่า ตอบโจทย์คนชอบเที่ยวญี่ปุ่นแน่นอน!
*โปรดตรวจสอบแผนความคุ้มครอง และกรมธรรม์ที่ท่านเลือกซื้อ
ไข้หวัดใหญ่ระบาดในญี่ปุ่นอาจทำให้ทริปสุดฟินกลายเป็นฝันร้ายได้ในพริบตา แต่ถ้ามีประกันเดินทางจาก heygoody ติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือฉุกเฉินหนัก ก็ไม่ต้องห่วงค่ารักษา แถมบางแผนยังไม่ต้องสำรองจ่าย รักษาได้ทั้งที่ญี่ปุ่นและกลับมาเบิกค่ารักษาที่ไทยได้อีก ก่อนบินรีบมาเช็คราคาและซื้อประกันที่เว็บไซต์ heygoody จะได้เที่ยวให้สุด แล้วหยุดที่ความอุ่นใจ มีประกันดี ๆ ไว้ ป่วยแค่ไหนก็ไม่หวั่น!