ซากุระญี่ปุ่นปี 2025 กำลังจะมาแล้ว! เทศกาลชมดอกซากุระที่สวยที่สุดแห่งปีที่ทุกคนรอคอย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางด้วยพยากรณ์ซากุระญี่ปุ่น 2025 พร้อมแนะนำจุดชมซากุระสุดฮิต และเคล็ดลับการวางแผนทริปให้เจอซากุระบานสวยแบบเป๊ะปัง ไม่พลาดแม้แต่ดอกเดียว ใครกำลังตามหาตารางซากุระญี่ปุ่นบานอยู่ต้องดู!
ดอกซากุระบานเดือนไหนในญี่ปุ่น? โดยปกติดอกซากุระบานจะไล่เรียงตั้งแต่ภาคใต้สุดอย่างเกาะคิวชู ในช่วงกลางถึงปลายเดือนมีนาคม จากนั้นจะไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงเกาะเหนือสุดของญี่ปุ่นอย่างเกาะฮอกไกโดในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ดังนั้นเหล่ากู๊ดดี้ที่วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นช่วงมีนาคมถึงต้นพฤษภาคม มีโอกาสได้ชมความงามของซากุระได้แน่นอน เพียงแค่เลือกจุดหมายปลายทางให้เหมาะกับช่วงเวลา และติดตามพยากรณ์ซากุระญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
มีแพลนจะไปโตเกียว จะได้เห็นซากุระญี่ปุ่นเดือนไหน? อยากเที่ยวฮอกไกโด ซากุระบานเดือนไหน? ใครที่มีเมืองในใจอยู่แล้วแบบนี้ มาเช็คกันเลยว่า แต่ละเมืองซากุระญี่ปุ่นบานช่วงไหนบ้าง
ภูมิภาค Kyushu
ภูมิภาค Chugoku และ Shikoku
ภูมิภาค Kinki
ภูมิภาค Tokai และ Hokuriku
ภูมิภาค Kanto
ภูมิภาค Hokkaido และ Tohoku
ถ้าไม่รู้จะไปดูซากุระญี่ปุ่นเมืองไหนดี heygoody ขอแนะนำ 6 จุดชมซากุระที่ห้ามพลาดในปี 2025
สวนสาธารณะอุเอโนะ แลนด์มาร์คยอดฮิตสำหรับชมซากุระในโตเกียว มีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น โดดเด่นด้วยอุโมงค์ซากุระยาวกว่า 800 เมตร สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะมีการจัดไฟประดับในช่วงกลางคืน สามารถเดินเล่นชมซากุระพร้อมปิกนิกใต้ต้นได้ทั้งวัน นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ได้ชมซากุระแบบจัดเต็ม
แม่น้ำเมกุโระ เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 800 ต้นที่เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำยาวกว่า 1.7 กิโลเมตร เหล่ากู๊ดดี้จะเห็นภาพดอกซากุระสีชมพูสะท้อนผิวน้ำ ยิ่งช่วงกลางคืนที่มีการประดับไฟตลอดทาง ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกมากขึ้นไปอีก! และในช่วงที่ซากุระบาน จะมีร้านค้าขายของกินบริเวณนี้ด้วยนะ บอกเลยว่าคึกคักสุด ๆ
สวนชินจูกุเกียวเอน เป็นสวนญี่ปุ่นโบราณใจกลางโตเกียวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี มีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์กว่า 65 ชนิด รวมกว่า 1,000 ต้น ภายในสวนแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ สวนญี่ปุ่น สวนฝรั่งเศส และสวนอังกฤษ ที่แต่ละโซนก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว จะมากับครอบครัว แฟน หรือแก๊งเพื่อนบอกเลยว่า ฟินสุด ๆ!
ใครอยากขึ้นไปชมซากุระบนเขา ขอแนะนำ ภูเขาโยชิโนะ หนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีต้นซากุระกว่า 30,000 ต้นที่ปกคลุมทั่วทั้งภูเขา แบ่งเป็น 4 ระดับความสูง ทำให้ซากุระทยอยบานสลับกันไปตามระดับความสูง สร้างทัศนียภาพที่สวยงามตลอดช่วงฤดูใบไม้ผลิ เหล่ากู๊ดดี้สามารถต่อกระเช้า หรือรถบัส เพื่อขึ้นไปชมทะเลซากุระสีชมพูกว้างไกลสุดสายตา รับรองว่าประทับใจจนอยากกลับมาอีก!
สวนมารุยามะ แลนด์มาร์คชมซากุระขึ้นชื่อของเกียวโต ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้ายาซากะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง บริเวณใจกลางสวนมีต้นซากุระพันธุ์ Shidarezakura หรือซากุระพันธุ์กิ่งย้อยตั้งตระหง่าน ยามค่ำคืนมีการประดับไฟส่องสว่าง ทำให้ได้ชมซากุระสวยแปลกตาขึ้นไปอีก เรียกได้ว่า เป็นจุดชมซากุระที่มาแล้วได้รูปสวย ๆ กลับไปแน่นอน
อยากเซลฟี่กับซากุระแบบมีฉากหลังปัง ๆ ต้องมาที่ปราสาทโอซาก้า ที่นี่มีต้นซากุระเรียงรายกว่า 4,000 ต้น โอบล้อมปราสาทสุดอลังการที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง ให้ภาพที่สวยแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์ เหล่ากู๊ดดี้สามารถเลือกเดินชิลล์ในสวนนิชิโนมารุ หรือจะล่องเรือชมซากุระในคูน้ำรอบปราสาทก็ได้ แต่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือการชมซากุระยามค่ำคืน เพราะทั้งปราสาทและต้นซากุระจะถูกประดับไฟสวยงาม สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว!
การไปชมซากุระที่ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่จองตั๋วแล้วบินไปเที่ยว แต่ต้องเตรียมตัวและวางแผนหลายอย่าง โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นแบบนี้ที่นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ เหล่ากู๊ดดี้มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะทำให้ทริปชมซากุระครั้งนี้เพอร์เฟคที่สุด
การจะเจอซากุระบานเต็มที่ต้องวางแผนให้ดี โดยติดตามพยากรณ์ซากุระญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ซึ่งแต่ละปีอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ ควรเผื่อเวลาพักในแต่ละเมือง 2-3 วัน เพราะซากุระมักบานสวยที่สุดประมาณ 5-7 วันหลังเริ่มบาน และอาจร่วงเร็วถ้ามีฝนหรือลมแรง นอกจากนี้ควรเลือกจุดชมซากุระหลาย ๆ ที่ในละแวกใกล้เคียงกัน เผื่อที่ไหนบานไม่สวยก็ยังมีที่อื่นเป็นตัวเลือก
ช่วงเทศกาลชมซากุระเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินสูงกว่าปกติ ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้ได้ราคาที่ดีและมีตัวเลือกมากกว่า โดยเฉพาะที่พักใกล้จุดชมซากุระยอดนิยมที่มักเต็มเร็วมาก
หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบิน และจองที่พักเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมลงทะเบียน Visit Japan Web ด้วยนะ เพื่อให้ขั้นตอนเข้าประเทศสะดวกรวดเร็วขึ้น
สภาพอากาศช่วง Spring ของญี่ปุ่น จะมีอุณหภูมิกำลังพอดีอยู่ที่ 10-14 องศาเซลเซียส ถ้าเหล่ากู๊ดดี้ไปเที่ยวเดือนมีนาคมจะยังมีวันที่อากาศเย็นอยู่ วิธีแต่งตัวตามสภาพอากาศที่แนะนำคือการแต่งตัวแบบ layering ใส่เสื้อบาง ๆ หลายชั้น เช่น เสื้อยืดแขนยาวทับด้วยเสื้อไหมพรมบาง และเสื้อแจ็คเก็ตตัวนอก เพื่อให้สามารถถอดออกหรือใส่เพิ่มได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับใครที่ไปเที่ยวเดือนเมษายนเป็นต้นไป อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นตามลำดับ สามารถใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ได้มากขึ้น โดยช่วงเช้าอาจจะใส่เสื้อธรรมดา และสวมสเวตเตอร์ทับ ช่วงบ่ายสวมแค่เสื้อแขนสั้นสบาย ๆ และควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย เหมาะกับการเดินชมซากุระเป็นเวลานาน
นอกจากถ่ายรูปชมซากุระแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมายในช่วงนี้ เช่น ฮานามิ (ปิกนิกใต้ต้นซากุระ) เช่าชุดกิโมโนถ่ายรูป ชมไฟที่ประดับตามต้นซากุระยามค่ำคืน หรือเดินเที่ยวเทศกาลอาหารที่จัดขึ้นเฉพาะช่วงซากุระบาน บางกิจกรรมอาจต้องซื้อตั๋วก่อน เช่น การล่องเรือชมซากุระ ดังนั้น ควรวางแผนและซื้อตั๋วล่วงหน้าจะได้ไม่พลาดประสบการณ์สุดพิเศษที่มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น!
การเดินทางไกลในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นแบบนี้ ควรมีประกันการเดินทางติดกระเป๋าไปด้วย เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น เที่ยวบินล่าช้า กระเป๋าสูญหาย หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน การมีประกันจะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เหล่ากู๊ดดี้เที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่นซึ่งค่อนข้างสูง
ก่อนบินลัดฟ้าไปชมซากุระญี่ปุ่น การเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ เหล่ากู๊ดดี้ควรวางแผนล่วงหน้า ติดตามพยากรณ์ซากุระบานอย่างใกล้ชิด และเลือกจุดชมซากุระที่เหมาะกับตารางเวลา จะได้เจอซากุระบานสวยแบบฟิน ๆ
สุดท้ายอย่าลืมแวะมาเลือกประกันเดินทางญี่ปุ่นที่ heygoody ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุฉุกเฉิน กระเป๋าล่าช้า เที่ยวบินดีเลย์ และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เลือกซื้อง่ายผ่านออนไลน์ เริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาท แต่คุ้มครองถึงหลักล้าน แถมยังมีโปรสุดปัง เฉพาะเหล่ากู๊ดดี้เท่านั้น อยากเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมั่นใจ ให้ประกันช่วยดูแล!
ที่มา : mushroomtravel