ไขความลับเลขตัวถังรถยนต์ อยู่ตรงไหนและอ่านยังไง

เลขตัวถังรถยนต์ หรือเลขคัสซี เป็นจุดสำคัญที่รถทุกคันต้องมี แต่เชื่อว่า มีเหล่ากู๊ดดี้หลายคนไม่ได้สังเกต หรือไม่เข้าใจว่า เลขเหล่านั้นคืออะไร? มีความหมายว่ายังไง? วันนี้ heygoody เลยจะพาไปเช็คเลขตัวถังรถยนต์กันว่า มีความหมายอะไรซ่อนอยู่ อยู่ตรงไหน และสำคัญอย่างไร? เผื่อเวลาไปซื้อรถยนต์มือสองจะได้รู้ข้อมูลในเบื้องต้น ไม่โดนย้อมแมว!

เลขตัวถังคืออะไร

เลขตัวถัง หรือ Vehicle Identification Number (VIN) คือหมายเลขเฉพาะที่ผู้ผลิตกำหนดให้กับรถยนต์แต่ละคัน เพื่อใช้บอกรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับรถคันนั้น เช่น บริษัทที่ผลิต สถานที่ผลิต เดือน และปีที่ผลิต เป็นต้น เปรียบเสมือนเลขประจำตัวประชาชนของรถยนต์นั่นเอง ซึ่งเลขตัวถังนี้จะมีตัวอักษรทั้งหมด 17 หลักด้วยกัน โดยเลขจะไม่ซ้ำกันในรถยนต์แต่ละคัน และที่สำคัญเลขตัวถังจะต้องตรงกับในเล่มทะเบียนรถยนต์เท่านั้น

เลขตัวถังอยู่ตรงไหน

แล้วเลขตัวถังรถอยู่ตรงไหน? ตำแหน่งเลขตัวถังขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของรถ แต่โดยทั่วไปสามารถเช็คเลขตัวถังรถยนต์ได้ในตำแหน่งต่อไปนี้

• โครงหน้ารถ
• กระโปรงรถ
• แผงหน้าปัดรถ
• แผ่น พ.ร.บ. รถยนต์
• ประตูฝั่งคนขับ
• ผนังด้านในห้องเครื่อง
• ใต้กระจกบังลมหน้ารถ
• แก้งบังโคลนหน้า
• ใต้ยางอะไหล่
• ใต้ซุ้มล้อหลัง
• ใต้พรมฝั่งคนขับ

ความหมายของเลขตัวถัง 17 หลัก

เลขตัวถังประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขรวม 17 หลัก แต่ละหลักมีความหมายดังนี้

• หลักที่ 1 หมายถึง ภูมิภาคที่ผลิตรถยนต์คันนี้
  • A-H ผลิตในโซนแอฟริกา
  • J-R ผลิตในโซนเอเชีย (ยกเว้น O และ Q)
  • S-Z ผลิตในโซนยุโรป
  • 1-5 ผลิตในโซนอเมริกาเหนือ
  • 6-7 ผลิตในโซนออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์
  • 8-9 ผลิตในโซนอเมริกาใต้
• หลักที่ 2-3 หมายถึง ตัวย่อของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น R0 หมายถึง โตโยต้าประเทศไทย RH หมายถึง ฮอนด้าประเทศไทย M8 หมายถึง มาสด้าประเทศไทย เป็นต้น
• หลักที่ 4-8 หมายถึง รายละเอียดย่อยของรถ เช่น รูปแบบตัวถัง รุ่นย่อย ระบบเกียร์ที่ใช้ เป็นต้น
• หลักที่ 9 หมายถึง ตัวเลขสำหรับยืนยันความถูกต้องของเลขตัวถังชุดดังกล่าว โดยจะมีรูปแบบการคำนวณที่ซับซ้อน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเลขประจำตัวรถ
• หลักที่ 10 หมายถึง ปีที่ผลิตรถยนต์ โดยจะเริ่มนับจากปี ค.ศ. 1980 ซึ่งเป็นปีที่มีการใช้เลข VIN 17 ครั้งแรก
  • ปี ค.ศ. 1980 จะใช้ตัวอักษร A และไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงตัวอักษร Y ในปี ค.ศ. 2000
  • ปี ค.ศ. 2001 ได้เปลี่ยนไปใช้ตัวเลขแทน ซึ่งจะไล่ตั้งแต่เลข 1 ไปจนถึงเลข 9 ในปี ค.ศ. 2009
  • ปี 2010 จนถึงปีปัจจุบันนี้ ได้เปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรเหมือนเดิม โดยอักษร A จะแทนปี ค.ศ. 2010 และไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
• หลักที่ 11 หมายถึง ตัวย่อของโรงงานที่ประกอบรถยนต์
• หลักที่ 12-17 เป็นเลข Serial Number หรือเลขคัสซี คือ ตัวเลขที่รันตามสายผลิต นั่นหมายความว่า เลขตั้งแต่หลักที่ 1-11 จะซ้ำกับคันอื่นก็ได้ แต่เลข 6 หลักสุดท้ายจะไม่เหมือนกันสักคัน

เลขตัวถังสำคัญอย่างไร

เลขตัวถังรถสำคัญมากเวลาเคลมประกันรถยนต์ เนื่องจากบริษัทประกันจะยึดเลขตัวถังของรถที่จะเคลมประกันเป็นหลัก ซึ่งเลขจะปรากฏในใบกรมธรรม์ด้วย นอกจากนี้ เวลาจะซื้อรถมือสองซักคัน เลขตัวถังนี่แหละเป็นจุดที่เหล่ากู๊ดดี้สามารถใช้เช็คเพื่อป้องกันการโดนย้อมแมว ถ้าเลขตัวถังที่ปรากฏบนรถไม่ตรงกับเลขในเล่มทะเบียนแม้แต่หลักเดียวแล้วล่ะก็ ให้คิดไว้เลยว่า รถมือสองคันนี้อาจโดนสวมทะเบียน หรือเป็นรถที่ถูกขโมยมาขายทอดตลาดต่อ

เลขตัวถัง กับ เลขเครื่องยนต์ เหมือนกันไหม

ไม่เหมือนกัน เลขเครื่องยนต์ หรือหมายเลขเครื่องยนต์ คือหมายเลขเฉพาะที่กำหนดให้กับเครื่องยนต์ของรถยนต์แต่ละคัน จะอยู่ที่เครื่องยนต์ ซึ่งจะต้องตรงกับในเล่มทะเบียนรถยนต์เช่นเดียวกับเลขตัวถัง

จะเห็นได้ว่า เลขตัวถังมีความสำคัญมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเวลาซื้อรถยนต์มือสอง ต้องเช็ครุ่นรถจากเลขตัวถัง และต้องดูว่า เลขตัวถังตรงตามเล่มทะเบียนหรือไม่ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้ และไม่ว่าจะซื้อรถยนต์มือสอง หรือรถใหม่ป้ายแดงก็ตาม อย่าลืมทำประกันรถยนต์เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน ให้เหล่ากู๊ดดี้ขับขี่อย่างอุ่นใจในทุกเส้นทาง แวะมาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ง่าย ๆ ที่เว็บไซต์เฮ้กู๊ดดี้ ได้เลย ซื้อง่าย ผ่อนสบาย ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน คุ้มครองจัดเต็ม!

ที่มา : one2car และ TOYOTA SURE