โลโก้ เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะจดจำ ดังนั้น การออกแบบโลโก้ที่ไม่เหมือนใคร ดึงดูดสายตา และสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนจึงสำคัญมาก แล้วเคยสงสัยไหมว่าโลโก้และเว็บไซต์ของ heygoody มาจากไหน? วันนี้เราจะพาทุกคนไปไขความลับเบื้องหลังการออกแบบสุดคูลที่ทำให้ heygoody โดดเด่นไม่เหมือนใคร!
อย่างที่เคยบอกไปในบทความ “รู้จัก heygoody คือใคร”ก่อนหน้านี้ว่า heygoody ซึ่ง hey - คำทักทายอย่างเป็นกันเอง และ goody - คนดี เพื่อนที่ดี เพราะเราอยากเป็นเพื่อนคู่คิดของลูกค้า heygoody จึงเป็นแบรนด์ประกันออนไลน์ heygoody เป็นแบรนด์ที่มีคาแรกเตอร์ที่จริงใจ และดูแลลูกค้าเหมือนเพื่อน
นอกจากชื่อแล้ว heygoody ยังมีสัญลักษณ์รูปยิ้มแบบปากเอียงๆ ในโลโก้ สื่อถึงการบริการด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดี และเฟรนด์ลี๊เฟรนด์ลี่ตามชื่อแบรนด์ด้วย
ในเชิงการออกแบบ ทุกอย่างย่อมมีที่มา แต่มาแบบใด ขอพาทุกคนไปเข้าใจเบื้องหลังแนวคิดกันหน่อยดีกว่า
heygoody เลือกใช้สีเขียว #00A971 เป็นสีหลัก (Primary color) ที่สื่อถึงความสดใส พลังงาน และความน่าเชื่อถือ นอกจากความหมายแล้ว การเลือกสีแบรนด์ที่ไม่เหมือนใคร หรืออยู่ในโซนสีที่แตกต่าง มีข้อดีหลายประการ ช่วยให้แบรนด์ heygoody โดดเด่น จดจำง่าย สื่อถึงเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่าง เสริมภาพลักษณ์ และเพิ่มการจดจำได้ด้วย
heygoody เลือกใช้ฟอนต์ Noto Sans Thai ที่ออกแบบมาเพื่อความอ่านง่าย ทันสมัย เหมาะกับทุกแพลตฟอร์ม และฟอนต์ Poppins สำหรับพาดหัวภาษาอังกฤษและเนื้อหาที่ต้องการความโดดเด่น ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษ
ในส่วนของอัตลักษณ์ทางภาพ (Visual Identity) ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ สิ่งที่มองเห็นได้ของแบรนด์ ใช้เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ บุคลิก และคุณค่าของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น
Brand Values ก็เหมือนกับ "แก่น" หรือ "DNA" ของแบรนด์ที่เป็นตัวกำหนดว่าแบรนด์เป็นใคร มีความเชื่อหรือยึดมั่นในเรื่องอะไร และต้องการสร้างอะไร นี่คือสิ่งที่เราเชื่อและอยากส่งต่อให้ลูกค้าทุกคน
ไม่โทร ไม่จุกจิก เพราะเราเข้าใจ จึงให้คุณเปรียบเทียบ เช็คเบี้ย และซื้อประกันออนไลน์ได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง อยากซื้อประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง หรือประกันไหน ๆ ก็เช็คเองได้เลย!
ประกันราคาคุ้มค่ากว่า เพราะเราขายออนไลน์ไม่ผ่านคน จึงเอาค่าส่วนต่างมาลดให้คุณโดยเฉพาะ ไม่มีเงื่อนไขแอบแฝง
ติดปัญหา ทัก Line @heygoody มาได้เลยตลอด 24 ชม. ตอบทุกคำถาม แนะนำทุกเรื่องประกันด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่จะตกผลึกมาเป็นตัวตนของ heygoody มีคาแรกเตอร์สบายๆ (Casual) เป็นกันเอง (Friendly) แต่เชื่อถือได้ (Reliable) เรากาง Tone of Voice ที่มีทั้งหมดออกมา แล้วสุมหัวช่วยกันคิดออกมาว่า เราอยากให้"น้ำเสียง" หรือ "สไตล์การพูด" ของแบรนด์เป็นยังไงที่จะบ่งบอกถึง "ตัวตน" และ "ความรู้สึก" ของ heygoody ได้ชัดที่สุด
จะเห็นว่า กว่าจะมาเป็นแบรนด์ heygoody นั้นมันไม่ใช่แค่ดีดนิ้วแล้วเสร็จเลย แต่ผ่านกระบวนการคิดแล้วคิดอีก บางอันผ่าน บางอันแก้ จนสุดท้ายก็มาเป็นน้องกู๊ดดี้ที่มีรอยยิ้มให้กับลูกค้าทุกคน ทีมงาน heygoody ก็หวังว่า พลังและความตั้งใจของเราจะส่งไปถึงทุกคนนะ 🙂