จะเป็นยังไงถ้าแบตเตอรี่รถยนต์หมดกลางทาง สตาร์ตยังไงก็ไม่ติด ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเวลาเร่งรีบ แค่คิดก็หงุดหงิดใจแล้ว! ดีกว่ามั้ยถ้าเรารู้วิธีสังเกตสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้รู้ว่าแบตเตอรี่พร้อมใช้งานมั้ย ต้องชาร์จรึเปล่า วันนี้ heygoody พาไปดูวิธีเช็กสภาพแบตเตอรี่ผ่านตาแมว สีไหนบอกสถานะอะไรบ้าง
ก่อนอื่นมารู้จักประเภทแบตเตอรี่กันก่อน แบตเตอรี่รถยนต์ใช้อยู่ทั่วไป มี 3 ประเภท ได้แก่
แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free) ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน สังเกตง่าย ๆ คือ ไม่มีรูเติมน้ำกลั่นแบบแบตเตอรี่ทั่วไป ข้อดีคือ ใช้งานสะดวก ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเติมน้ำกลั่น แต่ราคาสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ และต้องใช้แบตเตอรี่สดใหม่จากโรงงาน ไม่ถูกสต๊อกไว้นาน
แบตเตอรี่แบบน้ำ หรือเติมน้ำกลั่น (Conventional Battery) แบตเตอรี่แบบดั้งเดิม ต้องคอยเช็คระดับน้ำกลั่นและเติมน้ำกลั่นให้แบตเตอรี่พร้อมใช้งาน ยิ่งใช้งานหนัก ยิ่งต้องเติมบ่อย เพราะถ้าลืมเติมน้ำกลั่นหรือปล่อยให้น้ำระเหยออกจากแบตเตอรี่หมด แบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ อายุใช้งานสั้นลง แต่ข้อดีคือ ราคาถูกกว่าแบบแห้ง เหมาะกับรถที่ต้องวิ่งนาน ๆ เพราะทนความร้อนสูง
แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free) ยังมีรูให้เติมน้ำกลั่นอยู่ แต่ไม่ต้องเช็คและเติมน้ำกลั่นบ่อยเท่าแบตเตอรี่แบบน้ำ เช็คปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ดูแลรักษาง่าย ราคาถูกกว่าแบบแห้งและทนทานสูง เหมาะกับรถที่ใช้ในชีวิตประจำวันกับเจ้าของรถที่ไม่มีเวลาดูแลรถ
ตาแมวบนแบตเตอรี่ (Indicator Sign) คือ ตัววัดความถ่วงจำเพาะของน้ำกรดในแบตเตอรี่ มีลักษณะเป็นลูกลอยบนฝาแบตเตอรี่รถยนต์ ใช้เช็คแบตเตอรี่รถยนต์เบื้องต้นว่า สถานะเป็นยังไง ถึงเวลาต้องชาร์จ หรือเติมน้ำกลั่นแล้วรึยัง
จะรู้ได้ยังไงว่าแบตเตอรี่มีสถานะยังไง ให้สังเกตสีขอบนอกของตาแมว ซึ่งแต่ละสีบอกสถานะแบตเตอรี่แตกต่างกัน ดังนี้
ขอบนอกตาแมวสีเขียวหรือสีฟ้า หมายถึง แบตเตอรี่รถยนต์ไฟเต็ม (Full Charge) พร้อมใช้งาน
ขอบนอกตาแมวสีขาว หมายถึง แบตเตอรี่รถยนต์ไฟอ่อน (Recharge Battery) ถึงเวลาต้องชาร์จ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสียหรือเสื่อมสภาพ
ขอบนอกตาแมวสีแดงหรือสีส้ม หมายถึง น้ำกลั่นแห้งหรือต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม ควรเติมน้ำกลั่น (Add Distilled Water)
ตาแมวแบตเตอรี่ไม่ได้บอก 100% ว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพรึเปล่า ผู้ใช้รถต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติด้วยตัวเอง ถ้ารถเริ่มสตาร์ตติดยาก น้ำกลั่นแห้งไวกว่าปกติ ไฟหน้าสว่างน้อยลง หรือไฟในรถทำงานผิดปกติ ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ซึ่งเกิดจากปัจจัยเหล่านี้
สำหรับแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน เคสนี้ “เคลมไม่ได้” เพราะเป็นการสึกหรอของอะไหล่ เจ้าของรถต้องรับผิดชอบค่าเปลี่ยนแบตเอง แต่สามารถเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ ได้ในกรณีเสียหายจากอุบัติเหตุรถชน โดยรับผิดชอบค่าเสียหายตามจริง
นอกจากหมั่นตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ผ่านตาแมวแล้ว เหล่ากู๊ดดี้อย่าลืมมองหาประกันภัยรถยนต์สำหรับรถคู่ใจ ช่วยให้หมดกังวลถ้าแบตเตอรี่รถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่ง heygoody มีประกันภัยรถยนต์กว่า 10 บริษัทประกันชั้นนำ ให้เหล่ากู๊ดดี้เลือกซื้อเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวดเร็ว ทันใจ เคลมง่าย ซื้อประกันรถกับ heygoody ได้แล้ววันนี้!
ที่มา : GS Battery และ GODTOWA
การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด