คงไม่มีใครอยากเจออุบัติเหตุรถชน ไม่ว่าเราเป็นฝ่ายชนหรือถูกชนนับเป็นการสร้างความเสียหายทั้งนั้น นอกจากการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ประจำปีแล้ว เหล่ากู๊ดดี้ควรซื้อประกันรถเพิ่มเติมเพื่อได้รับค่าสินไหมทดแทนตอนเกิดเหตุไม่คาดฝันด้วย โดยค่าสินไหมแบ่งเป็นความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อรถยนต์ ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละประเภทมีเงื่อนไขแตกต่างกัน บทความนี้ heygoody รวบรวมข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทนมาฝาก เหล่ากู๊ดดี้จะได้เลือกซื้อประกันรถได้ตรงความต้องการมากที่สุด
ค่าสินไหมทดแทน คือการชดเชยและเยียวยาความเสียหายที่ทางบริษัทประกันชดเชยให้กับผู้เสียหาย ตัวอย่างถ้ามีรถคันอื่นเร่งความเร็วจนมาชนรถของเรา ประกันที่รถคันนั้นทำไว้จะเป็นผู้จัดการชดเชยค่าสินไหมทดแทนโดยประเมินจากความเสียหายจริง เพื่อให้ผู้เสียหายและทรัพย์สินของผู้เสียหายกลับไปใกล้เคียงสภาพเดิมให้มากที่สุด
ค่าสินไหมทดแทนมีหลายแบบ บริษัทพิจารณาจ่ายหรือชดเชยให้ตามความเป็นจริงและความสมเหตุสมผล โดยเงื่อนไขระบุอยู่ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันต้องทำความเข้าใจและตกลงกับบริษัทประกันให้เรียบร้อยก่อนทำประกัน
การชดเชยค่าสินไหมทดแทนที่สะดวกสุดคือ การชดเชยเป็นตัวเงิน โดยประเมินตามมูลค่าความเสียหายจริง ทั้งความเสียหายโดยตรง และความเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุ
สำหรับกรณีทรัพย์สินเสียหายเพียงบางส่วน บริษัทประกันอาจเสนอชดเชยด้วยการซ่อมแซมให้กลับมามีสภาพใช้งานได้ดังเดิม
ถ้าทรัพย์สินนั้นเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ บริษัทประกันอาจเสนอขอชดเชยด้วยการจัดหาทรัพย์สินทดแทนเหมือนกับชิ้นเดิม
อีกหนึ่งวิธีที่อาจไม่ค่อยนิยมนัก เนื่องจากมีความยุ่งยาก คือการสร้างทรัพย์สินขึ้นมาใหม่ให้มีสภาพเหมือนกับก่อนเกิดอุบัติเหตุให้มากที่สุด
บริษัทประกันอาจไม่ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนในทุกกรณี ดังนั้น เหล่ากู๊ดดี้อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขของประกันแต่ละประเภท จะได้รู้ว่าถ้าต้องการความคุ้มครองและการชดเชยแบบเต็มที่ต้องซื้อประกันชั้นไหน มาดูข้อยกเว้นบางอย่างที่ประกันไม่จ่ายเมื่อเกิดกรณีต่อไปนี้
คำว่า “ประมาทร่วม” หมายความว่า ทั้งสองฝ่ายประมาทร่วมกัน หรือต่างประมาทด้วยกันทั้งคู่ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุและไม่มีใครผิดมากน้อยไปกว่าใคร จึงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
การประมาทร่วมมีหลายกรณี ประกันจ่ายเงินค่าสินไหมต่อเมื่อคู่กรณีบาดเจ็บ โดยชดเชยค่าเสียหายให้ตามจริง โดยประกันแต่ละชั้นได้รับการชดเชยแตกต่างกัน ดังนี้
ถ้าขับรถถูกกฎหมายจราจรแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ในกรณีผู้เอาประกันทำผิดกฎจราจร เช่น ไม่มีใบขับขี่ เมาแล้วขับ หรือบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะประกันไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
สำหรับกรณีถูกชนแล้วคู่กรณีหนี ประกันชั้น 2 และ 3 เคลมค่าสินไหมไม่ได้ ถ้าเหล่ากู๊ดดี้ต้องการความคุ้มครองในส่วนนี้ ให้เลือกทำประกันดังนี้
ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนรถ มีแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้และคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี สำหรับประกันชั้น 2+ และประกันรถยนต์ 3+ จะชดเชยแค่ในกรณีที่รถชนกับพาหนะที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิง หรือพลังงานไฟฟ้า เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถไฟ รถซาเล้ง รถขายอาหาร หรือรถก่อสร้าง แต่ไม่จ่ายในกรณีที่เกิดความเสียหายจากการชนกับวัตถุอื่น เช่น รั้ว ต้นไม้ เสาไฟฟ้า
นอกจากเงื่อนไขข้างต้นแล้ว ประกันรถยนต์ยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่สามารถวางแผนป้องกันล่วงหน้าได้ทัน ตรงตามหลักการของประกันคือการคุ้มครองเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั่นเอง
อย่างที่เราได้เกริ่นกันไปในตอนแรกว่า ค่าสินไหมทดแทนมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับความเสียหาย ผู้เอาประกันเตรียมเอกสารเพื่อเคลมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้ได้
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนเริ่มสนใจทำประกันรถยนต์กันแล้วใช่มั้ย? เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ทางเดียวที่ทำได้นอกจากขับรถอย่างปลอดภัยและไม่ประมาทแล้ว คือการทำประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงและชดเชยความเสียหายให้ได้มากที่สุด แต่ประกันรถนั้นมีหลายประเภท หลายเงื่อนไขการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ถ้าเหล่ากู๊ดดี้คิดว่าเรื่องเหล่านี้เข้าใจยากและกลัวว่าจะได้ประกันที่ไม่ตรงตามความต้องการ ลองแวะมาใช้บริการจาก heygoody โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ก่อนได้นะ เปรียบเทียบแผนประกัน พร้อมบริการผ่อนชำระและส่วนลดพิเศษมากมาย จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับการเลือกซื้อประกันรถอีกต่อไป!