แนะนำ 3 วิธีการต่อประกันรถยนต์สุดฮิต วิธีไหนตอบโจทย์ที่สุด มาดูกัน!

ถึงเวลาต้องต่อประกันรถยนต์ทีไร เหล่ากู๊ดดี้หลายคนอาจจะปวดหัวขึ้นมาทันที เพราะไหนจะต้องดูกรมธรรม์ที่ต้องการต่อ ไหนจะราคา ไหนจะต้องเตรียมเอกสาร วันนี้ heygoody เลยมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวิธีต่อประกันรถยนต์ขั้นตอนต่างๆ รวมถึงเอกสารที่จำเป็นมาฝากกัน

ต่อประกันรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ก่อนไปดูเรื่องช่องทางในการต่อประกันรถยนต์ เราอยากให้ทุกคนเตรียมเอกสารที่จำเป็นเหล่านี้ให้พร้อมก่อน เพราะไม่ว่าจะเลือกวิธีต่อประกันรถยนต์แบบไหน ก็ต้องใช้เอกสารเหมือนกันตามนี้

1. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ
2. สำเนาใบอนุญาตขับขี่
3. สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
4. สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ฉบับที่กำลังจะหมดอายุ หรือใช้ใบแจ้งเตือนหมดอายุก็ได้ (มีใบนี้ สามารถขอส่วนลดเพิ่มได้ด้วยนะ)

ถ้าต้องการต่อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันเจ้าเดิมไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ เพราะทางบริษัทมีเอกสารเดิมอยู่แล้วแต่อาจจะมีเรื่องของเบี้ยประกันที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน

ต่อประกันรถยนต์ผ่านช่องทางไหนได้บ้าง?

ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อน วิธีต่อประกันรถยนต์ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ไม่ได้เหมือนในปัจจุบัน แต่ตอนนี้ก็ยังมีวิธีเหล่านี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการต่อประกันรถยนต์ผ่านโบรกเกอร์หรือนายหน้าขายประกัน และมีการต่อกับบริษัทโดยตรงโดยไม่ผ่านคนกลาง ถ้าใครสะดวกแบบไหนก็เลือกวิธีต่อประกันแบบนั้นได้เลย 

ต่อประกันรถยนต์ผ่านทางออนไลน์

เริ่มที่วิธีต่อประกันรถยนต์วิธีแรก ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือการต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ด้วยเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ทำให้หลายๆ คนเลือกต่อประกันด้วยวิธีนี้กันเยอะ เพราะนอกจากจะสะดวกไม่ต้องออกไปเจอตัวแทนไม่ต้องคุยโทรศัพท์ให้วุ่นวายแล้ว ยังสามารถหาข้อมูลได้เต็มที่ก่อนตัดสินใจต่อประกันอีกด้วย วิธีต่อประกันรถยนต์แบบออนไลน์ก็ไม่ยุ่งยาก แค่มองหาผู้ให้บริการต่อประกันออนไลน์ แล้วทำตามนี้เลย

1. เลือกและเปรียบเทียบประกันรถยนต์จากแต่ละบริษัทได้บนระบบช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย
2. เลือกประกันที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับตัวเอง ทั้งในด้านของความคุ้มครองและค่าเบี้ยประกัน
3. กรอกข้อมูลส่วนตัว อัปโหลดเอกสารที่จำเป็น
4. ชำระเงินได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งการสแกนจ่าย และบัตรเครดิต/เดบิต
5. รับกรมธรรม์ผ่านทางอีเมล

ต่อประกันรถยนต์ ผ่านโบรกเกอร์

การต่อประกันผ่านโบรกเกอร์หรือนายหน้าจะมีข้อดีตรงที่มีคนช่วยดูแลเรื่องเอกสาร แนะนำกรมธรรม์ที่เหมาะสมให้ได้ช่วยดูเรื่องค่าเบี้ยและติดต่อกับบริษัท โดยผู้ต่อประกันไม่ต้องเสียเวลาคุยเองหรือจัดการเอง แต่มีข้อเสียตรงที่อาจมีราคาสูงกว่าการต่อประกันผ่านบริษัทหรือการต่อประกันออนไลน์ด้วยตัวเอง เพราะจะมีค่านายหน้าด้วย วิธีต่อประกันผ่านโบรกเกอร์ส่วนมากจะมีขั้นตอนดังนี้

1. สามารถกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ หรือติดต่อโบรกเกอร์ได้โดยตรง และรอการติดต่อกลับ
2. ผู้เอาประกันชี้แจงเรื่องความต้องการ ทั้งในด้านความคุ้มครอง เบี้ยประกัน หรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่กำลังมองหา 
3. โบรกเกอร์มีข้อมูลประกันจากหลากหลายบริษัท โดยเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการ พร้อมเปรียบเทียบประกันให้เลือก
4. เมื่อผู้เอาประกันเลือกแผนแล้ว ทางโบรกเกอร์จะขอเอกสารตามกำหนด และดำเนินการต่ออายุประกันภัยให้
5. เมื่อได้กรมธรรม์แล้ว โบรกเกอร์จะเป็นคนกลางคอยประสานงานเรื่องการเคลมต่างๆ ให้ผู้เอาประกันจนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด

เห็นแบบนี้แล้วน่าจะบอกได้ไม่ยากว่า การต่อประกันผ่านโบรกเกอร์หรือนายหน้ามีความสะดวกสบายที่ค่อนข้างสูง เพราะมีคนคอยดูแลตลอดสัญญากรมธรรม์ แถมยังไม่ต้องดีลกับบริษัทประกันเองให้ปวดหัว ถ้าใครชอบความสะดวกสบายและพร้อมจ่ายสามารถเลือกวิธีต่อประกันแบบนี้ได้เลย

ต่อประกันรถยนต์ผ่านบริษัทโดยตรง

วิธีการต่อประกันแบบถัดมาคือการเลือกต่อกับบริษัทประกันโดยตรง ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องเสียค่านายหน้าเพราะไม่ผ่านคนกลางได้ราคาที่ถูกลง อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและตอบคำถามเชิงลึกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ หรือนัดเจอเพื่อพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมก็ทำได้ แต่ข้อเสียคือเวลามีการเคลมประกัน ต้องทำภายในเวลาทำการเท่านั้น หรือคุณอาจจะต้องเป็นคนติดต่อกับตัวแทนเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ แถมยังมีแค่กรมธรรม์ของบริษัทนั้นๆ ให้เลือก ไม่หลากหลายเหมือนซื้อผ่านโบรกเกอร์ ไปดูกันดีกว่าว่าวิธีต่อประกันกับบริษัทโดยตรงมีขั้นตอนยังไงบ้าง

1. ติดต่อไปยังบริษัทประกันนั้นๆ เกี่ยวกับการต่อประกันภัยรถยนต์ และรอการติดต่อกลับ
2. ถ้าต้องการต่อประกันกับบริษัทเดิม ตัวแทนมักจะเสนอส่วนลดให้ พร้อมแนะนำความคุ้มครองอย่างตรงไปตรงมา
3. ผู้เอาประกันแจ้งความต้องการ ถ้าต้องการเปลี่ยนกรมธรรม์ สามารถปรึกษากับตัวแทนของบริษัทได้เลย
4. ตัวแทนจะนำเสนอกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับความต้องการ จะเป็นประกันที่มาจากบริษัทดังกล่าวเท่านั้น
5. เมื่อตกลงต่อประกันภัยรถยนต์แล้ว ตัวแทนบริษัทจะคอยดูแลและช่วยแนะนำเรื่องการเคลมเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ

ใครที่มองหาวิธีต่อประกันรถยนต์ที่รู้สึกอุ่นใจ สามารถพูดคุยถึงรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน และไม่ติดเรื่องดำเนินการเคลมหรือติดต่อบริษัทเองเมื่อเกิดปัญหาเอง นี่คือการต่อประกันที่เหมาะมากๆ เลย

ก่อนต่อประกันต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การต่อประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด แค่เตรียมพร้อม 5 ข้อต่อไปนี้

1. เช็คดูวันที่ประกันปัจจุบันจะหมดอายุ และควรต่อก่อนหมดอายุเพื่อให้คุ้มครองต่อเนื่อง
2. รวบรวมเอกสาร ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ และสำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ฉบับที่กำลังจะหมดอายุ หรือใบแจ้งเตือนหมดอายุ
3. ตรวจสอบประวัติการเคลมในปีที่ผ่านมา เพราะอาจส่งผลต่อเบี้ยประกันปีถัดไป
4. เปรียบเทียบราคาจากบริษัทประกันหลายแห่ง ดูโปรโมชั่นหรือส่วนลดที่มีเพื่อความคุ้มค่า
5. ศึกษาเงื่อนไข อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้เข้าใจ ถ้ามีข้อสงสัยควรสอบถามกับโบรกเกอร์ หรือบริษัทประกัน

ต่อล่วงหน้าดีไหม ต่อล่วงหน้าก่อนประกันหมดได้นานแค่ไหน

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สามารถต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าได้ ซึ่งเลือกต่อได้หลายช่วงเวลาตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 6 เดือน มาดูกันว่า การต่ออายุประกันรถยนต์แต่ละช่วงดียังไง เหมาะกับใคร

ต่อล่วงหน้า 1 วัน

การต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 1 วันมีอยู่จริง เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะต่อกับบริษัทประกันเดิมอยู่แล้ว หรือมีข้อมูลบริษัทประกันอื่นในใจเป็นที่เรียบร้อย หรือคนที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ต่อประกันรถยนต์ ซึ่งกรณีนี้มีข้อเสียตรงที่จะไม่มีเวลาพิจารณาความคุ้มค่าจากหลาย ๆ บริษัทประกันเท่าไหร่นัก

ต่อล่วงหน้า 1 สัปดาห์

ช่วงเวลานี้ถือว่า กระชั้นชิดไม่แพ้กับการต่อล่วงหน้า 1 วัน แต่ยังพอมีเวลาหาข้อมูลประกันเจ้าอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า ซึ่งถ้าใครพอใจกับความคุ้มครองในปัจจุบันอยู่แล้ว เลือกต่อช่วงเวลานี้ก็ถือว่าเหมาะสม

ต่อล่วงหน้า 1-3 เดือน

การต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 1-3 เดือน เป็นช่วงที่หลายคนนิยม เพราะมีเวลาเลือกบริษัทที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์ ลดปัญหาการลืมต่อประกันรถยนต์เมื่อหมดอายุ แถมบางแห่งมีโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% ภายในเวลา 1-3 งวดได้อีกด้วยนะ

ต่อล่วงหน้า 6 เดือน

ใครกลัวลืม การต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 6 เดือน ก็เป็นช่วงที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้บริษัทประกันบางแห่งอาจยังไม่รับต่อประกันล่วงหน้า 6 เดือน เพราะถ้ารับต่อไปแล้ว รถที่เอาประกันเกิดอุบัติเหตุ มีการเคลมในช่วงสัญญาเหลือกับเจ้าเดิม อาจเกิดความยุ่งยากในการปรับเบี้ยได้

หากประกันหมดแล้ว อยากต่อต้องทำอย่างไร

สามารถติดต่อไปยังบริษัทประกันที่สนใจ และรอการติดต่อกลับได้เลย แต่ระหว่างที่ประกันหมด ความคุ้มครองก็ถือว่าสิ้นสุดตามไปด้วย ทางที่ดี heygoody แนะนำให้ต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าจะดีที่สุด จะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง และไม่ต้องกุลีกุจอหาประกันใหม่ แล้วรีบตัดสินใจซื้อแบบด่วน ๆ

บริษัทพิจารณาอะไรบ้างในการต่อประกัน

หลัก ๆ เลยจะดูประวัติการเคลม ถ้าเคลมประกันรถยนต์บ่อย โดยที่เราเป็นฝ่ายผิด จะมีผลกับการต่อประกันรถยนต์ในปีถัดไป อาจจ่ายเบี้ยประกันที่แพงขึ้น นอกจากนี้ถ้าเป็นการต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 บริษัทจะดูสภาพรถเพิ่มเติม ดังนั้นต้องมีการตรวจสภาพรถเพื่อยืนยันสภาพรถก่อนทำประกัน ในกรณีที่เกิดความเสียหายหลังจากต่อประกันไปแล้ว จะได้เคลมประกันง่ายขึ้น

สิ่งที่ควรจะคำนึงเมื่อต่อประกันใหม่

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึง คือการเลือกระหว่างต่อประกันรถยนต์เจ้าเดิมหรือเจ้าใหม่ ซึ่ง heygoody แนะนำให้เปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันทั้ง 2 เจ้าให้ละเอียด และพิจารณาความคุ้มครองควบคู่ไปด้วย ถ้าดูแล้วพบว่า ได้ความคุ้มครองไม่ต่างกัน แต่เจ้าเดิมจ่ายน้อยกว่า ก็อาจเลือกต่อเจ้าเดิม นอกจากนี้ ควรย้อนดูประวัติเคลม ถ้ามีประวัติเคลมบ่อย แนะนำให้เคลียร์สภาพรถให้ดี และมองหาประกันรถยนต์เจ้าใหม่ดีกว่า เพราะมีโอกาสไม่โดนบวกเบี้ยประกันเพิ่มนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการต่อประกันรถยนต์

1. ต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากี่วัน

สามารถต่อล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 1 วัน ไปจนถึง 6 เดือน

2. ต่อประกันรถยนต์ ช้าได้กี่วัน

ไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน แต่ประกันหมด = ความคุ้มครองหมด ดังนั้น ไม่ควรต่อช้าแม้แต่วันเดียว เพราะถ้าต่อประกันช้า หรือขาดประกันแม้แต่เพียงวันเดียว บริษัทประกันก็จะไม่คุ้มครอง ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะต้องจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด

3. ต่อประกันล่วงหน้าดียังไง

• มีเวลาเปรียบเทียบเบี้ยประกันกับความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกัน
• มีเวลาเตรียมความพร้อม วางแผนการชำระเบี้ยประกัน
• ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด

4. ต่อประกันกี่วันได้เอกสาร

โดยทั่วไป กรมธรรม์ต่ออายุ มีระยะเวลาการออกกรมธรรม์ ไม่เกิน 15 วัน

5. รถยังไม่เคลมต่อประกันได้ไหม

ต่อประกันได้ แต่จะไม่สามารถทำเรื่องเคลมประกันกับทางบริษัทใหม่ได้ทุกกรณี

6. ต่อประกันรถ ต้องตรวจสภาพไหม

ถ้าต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถยนต์ใหม่ ยกเว้นกรณีที่ต้องการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ว่าจะทำกับบริษัทเดิมหรือบริษัทใหม่ จำเป็นจะต้องถ่ายรูป หรือเข้ารับการตรวจสภาพรถยนต์ใหม่อีกครั้ง

7. ต่อ พ.ร.บ. พร้อมประกันได้ไหม

การต่อ พ.ร.บ. และการต่อประกันรถยนต์ไม่จำเป็นต้องทำพร้อมกัน จะต่อ พ.ร.บ. ก่อน หรือหลังต่อประกันรถยนต์ก็ได้

8. เคลมประกันรถเสียประวัติไหม

ถ้ามีการเคลมโดยที่เราเป็นฝ่ายผิด ปีต่อมาเราจะเสียประวัติทันที ทำให้ไม่ได้รับส่วนลดประวัติดี และเบี้ยประกันในปีถัดไปสูงขึ้น แต่ถ้าเคลมโดยที่เป็นฝ่ายถูก จะไม่มีผลต่อการต่ออายุ และคำนวณเบี้ยประกันในรอบปีหน้า

9. ประกันรถต่อแล้วใช้ได้เลยไหม เคลมได้เลยรึเปล่า

หลังจากชำระเงินเรียบร้อยก่อนที่ประกันรถยนต์ตัวเดิมจะหมดอายุ จะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องทันที

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับ heygoody ดีกว่ายังไง?

เพราะ heygoody คือแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อประกันรถยนต์แบบไม่ต้องผ่านคนกลาง ไม่ต้องผ่านตัวแทนจำหน่าย ไม่ผ่านใครทั้งสิ้น ทำให้มีข้อดีที่มาพร้อมกับความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

• สามารถเปรียบเทียบประกันจากบริษัทต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นข้อแตกต่างได้ชัดเจน
• สะดวกสบาย ซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่มีวันหยุด
• สามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง
• ได้รับกรมธรรม์รวดเร็ว ชำระเงินแล้วคุ้มครองเลยหลังชำระงวดแรก
• ผ่อนชำระเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 10 เดือน อัตราดอกเบี้ย 0% 
• งวดแรกเลือกชำระเพียง 1,000 บาทได้ หรือเลือกชำระจำนวนเท่ากันทุกงวดแทนก็ได้
• ซื้อประกันรถยนต์ พร้อม พ.ร.บ. รถยนต์ พร้อมกันในทีเดียว
• มีปัญหาอะไร ปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทางออนไลน์

สะดวกสบายแบบนี้ ใครที่กำลังมองหาวิธีต่อประกันที่รวดเร็วทันใจอยู่ ก็เข้ามาเลือกซื้อประกันรถยนต์ผ่อนได้กับ heygoody ได้เลย นอกจากจะมีตัวเลือกให้เยอะแล้ว ยังสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้รวดเร็วอีกด้วย  แถมยังได้รับความคุ้มครองแบบรวดเร็วสุดๆ