กฎหมายจราจรใหม่ 2567 เริ่มต้นบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ขับขี่ต้องอัปเดตความรู้ความเข้าใจกันไปพร้อม ๆ กัน วันนี้ heygoody สรุปรวมเอาข้อกฎหมายจราจรที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ มาให้ได้อัปเดตกันอย่างไม่มีพลาด รวมทั้งค่าปรับใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย
กฎหมายจราจรใหม่ 2567 มีอะไรบ้าง ค่าปรับเท่าไหร่?
สำหรับกฎหมายจราจรใหม่ที่ถูกบังคับใช้เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา มีทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความเร็วในการขับขี่ ปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ และกฎหมายอื่น ๆ เราสรุปมาให้อ่านกันง่าย ๆ ในภาพเดียวแล้ว ตามนี้เลย!
กฎหมายจราจรใหม่และอัตราโทษที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ
อัปเดตกฎหมายจราจรใหม่และค่าปรับจราจรใหม่ 2567 ตามนี้เลย
- ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
- ฝ่าสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
- ขับรถผ่านทางม้าลายโดยไม่หยุดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 4,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
- ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
- ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
- ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (เดิม 500 บาท)
- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ปรับ 5,000 - 20,000 บาทและจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ (เดิม 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
- ขับขี่บนทางเท้า ปรับ 400 - 1,000 บาท และผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินส่วนแบ่งเป็นกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
- ไม่หยุดรถหลังเส้นหยุดรถบริเวณสัญญาณไฟจราจร ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- กลับรถที่ทางร่วมทางแยก (โดยไม่มีเครื่องหมายจราจรอนุญาต) ปรับ 400 - 1,000 บาท
โดยโทษเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกฎหมายจราจรใหม่ 2567 เท่านั้น ซึ่ง heygoody ได้คัดมาแล้วว่าเป็นกฎหมายใหม่ที่น่าสนใจและมักจะถูกถามถึงอยู่บ่อย ๆ สำหรับใครที่อยากดูกฎหมายใหม่แบบละเอียดครบถ้วน ก็สามารถเข้าไปดูต่อได้ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ได้เลย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางสายด่วนจราจร 1197
กฎหมายความเร็วใหม่ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง?
ในส่วนต่อมา จะเป็นเรื่องของกำหนดความเร็วสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภทขณะใช้รถและถนน ซึ่งกฎหมายความเร็วใหม่แบ่งออกได้ตามประเภทของยานพาหนะดังต่อไปนี้
- รถยนต์ 4 ล้อ : ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 110 กม./ชม. แต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าอยู่เลนขวาสุด จะต้องมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.
- รถบรรทุกและรถโดยสารที่จุได้มากกว่า 15 ที่นั่ง : กำหนดความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กม./ชม.
- รถบรรทุกผู้โดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน : ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
- รถมอเตอร์ไซค์ : ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
- รถมอเตอร์ไซค์ขนาด 400 ซีซีขึ้นไป : ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
- รถสำหรับลากจูง รถสามล้อ และรถยนต์สี่ล้อขนาดเล็ก : ไม่เกิน 65 กม./ชม.
- รถยนต์ 4 ล้อ : ขับบนทางด่วนได้ไม่เกิน 100 กม./ชม.
- รถบรรทุกมากกว่า 2,200 กิโลกรัม หรือรถโดยสารเกิน 15 คน : ขับบนทางยกระดับหรือทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.
- รถโรงเรียน-รับส่งนักเรียน : ขับบนทางด่วนได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.
นอกจากกฎหมายที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุและกฎหมายความเร็วแล้ว ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ปรับไม่เกิน 500 บาท
- ขับขี่ในขณะที่ใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ ถูกยึด ถูกเพิกถอนหรือถูกพักใช้ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
กฎหมายเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ
เหล่านักบิดต้องระวัง! การแข่งรถบนถนนหลวง มีโทษปรับ และบทลงโทษ ดังนี้
- กรณีรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป พร้อมกับมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฐานความผิดในการแข่งรถในทางสาธารณะ เช่น นัดหมายแข่งรถล่วงหน้า ดัดแปลงสภาพรถเพื่อแข่งแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และแสดงพฤติกรรมให้เห็นว่าเจตนาแข่งรถ จะถือว่ามีโทษ 2 ใน 3 ฐานแข่งรถในทางสาธารณะ มีโทษปรับ 5,000 - 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีเป็นผู้ป่าวประกาศ หรือชักชวนให้เกิดการแข่งรถในทางสาธารณะเกิดขึ้น มีโทษปรับ 10,000 - 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ร้านที่ช่วยแต่งรถให้ถือว่ามีความผิดร่วม ในฐานะผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3 ฐานแข่งรถในทางสาธารณะด้วยเช่นกัน มีโทษปรับ 5,000 - 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
เกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่
นอกจากเรื่องบทลงโทษด้านค่าปรับแล้ว เมื่อทำผิดกฎหมายจราจรใหม่ 2567 จะมีการตัดคะแนนความประพฤติกรรมการขับรถ หรือที่เรียกว่า “ตัดแต้มใบขับขี่” อีกด้วย ซึ่งมีผลโดยตรงกับการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
- ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน ถ้าทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
- โดยเมื่อถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 แล้ว จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 90 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ 3 ครั้งภายในระยะเวลา 3 ปี จะมีสิทธิ์ถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่มากกว่า 90 วัน และอาจถูกพิจารณาเพิกถอนได้หากมีครั้งที่ 4 เกิดขึ้น
โดยเกณฑ์ในการตัดคะแนนความประพฤติในการขับขี่ที่ในกฎหมายจราจรใหม่ 2567 จะมีทั้งแบบที่ถูกตัดคะแนนทันที เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ติดป้ายภาษี ฝ่าไฟแดง ชนแล้วหนีหรือกรณีเมาแล้วขับ และยังมีการตัดคะแนนแบบที่สอง ที่จะถูกตัดเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งด้วยนะ
แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะคะแนนเหล่านี้ คุณสามารถเก็บคะแนนคืนมาได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ผู้ขับขี่สามารถเข้าอบรมเพื่อคืนคะแนนได้ จำกัดปีละไม่เกิน 2 ครั้ง ทำได้เมื่อมีคะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน
- โดยการอบรมครั้งแรกจะได้คืนไม่เกิน 12 คะแนน และครั้งที่สองไม่เกิน 6 คะแนน
จ่ายค่าปรับจราจรได้ที่ไหนบ้าง?
ได้อัปเดตกฎหมายจราจรใหม่บางส่วนไปกันแล้ว หวังว่าเหล่ากู๊ดดี้จะช่วยกันปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถและท้องถนนกันอย่างเคร่งครัด แต่ในกรณีที่เกิดโดนใบสั่งขึ้นมา เราก็มีข้อมูลมาให้ว่าจะต้องไปจ่ายค่าปรับยังไง และต้องจ่ายค่าปรับที่ไหนบ้าง
- สถานีตำรวจ โดยปกติแล้ว สามารถนำใบแจ้งค่าปรับไปชำระได้ที่สถานีตำรวจ แต่ปัจจุบันนี้สามารถชำระออนไลน์ได้แล้ว
- จ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร: โดยกดไปที่เมนูจ่ายบิล และหาคำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- จ่ายผ่านตู้ ATM: โดยสามารถทำการชำระได้ตามเมนูของเครื่องและระบบ
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส: สามารถจ่ายค่าปรับจราจรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่สาขา อย่างเช่นที่ 7-11 เป็นต้น
- ที่ทำการไปรษณีย์: อีกหนึ่งช่องทางการจ่ายค่าปรับก็คือที่ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา
- CenPay หรือเคาน์เตอร์ของเครือเซ็นทรัล ทั้ง PowerBuy, FamilyMart, Central, Robinson และอื่น ๆ
หลังจากการทำการจ่ายค่าปรับผ่านช่องทางต่าง ๆ แล้ว ก็จะมี SMS ส่งมายืนยันการจ่ายเงินภายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากไม่ได้รับ SMS ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ก็ให้โทรไปติดตามผลได้ที่เบอร์ 1220 ได้เลย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่จ่ายค่าปรับจราจร?
โดยปกติแล้ว ในใบสั่งจะมีวันที่กำหนดเอาไว้ว่าจะต้องจ่ายค่าปรับภายในวันไหน ในกรณีที่ไม่ไปจ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเพราะไม่มารายงานตัว แถมยังถูกอายัดทะเบียนด้วยเช่นกัน โดยจะมีค่าปรับเพิ่มขึ้นมา 1,000 บาทอีกด้วย หากติดค่าปรับเอาไว้ ไม่ไปจ่ายเลย ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถได้ในอนาคต
ดังนั้น เมื่อได้รับใบสั่ง ก็ควรทำการจ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่กำหนด จะได้ไม่ต้องโดนปรับและโดนข้อหาเพิ่มเติม และช่วยรักษาคะแนนความประพฤติในการขับขี่ จะเป็นผลกับการทำประกันภัยรถยนต์ในภายหลังด้วยนะ
ใบสั่งเกินกำหนด ต้องไปจ่ายที่ไหน?
ถ้าใบสั่งเกินกำหนด สามารถนำไปจ่ายได้ที่ทุก สน. ทั่วประเทศ โดยไม่สามารถจ่ายค่าปรับออนไลน์ได้นะ
สรุป กฎหมายจราจรใหม่ 2567
เป็นอย่างไรกันบ้างกับสรุปกฎหมายจราจรใหม่ 2567 ที่ heygoody นำมาฝากกันในวันนี้ จริง ๆ แล้วกฎหมายใหม่มีรายละเอียดเยอะกว่านี้มาก ๆ แต่กฎหมายและข้อบังคับที่เราเอามาแชร์กันในบทความนี้ เป็นส่วนที่ใกล้ตัวเท่านั้น สำหรับใครที่ยังไม่มีประกันภัยรถยนต์ แต่มี พ.ร.บ. รถยนต์ตามกฎหมายกำหนดแล้ว ก็อย่าลืมซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ช่วยดูแลผู้ขับขี่ได้อย่างรอบด้าน เพื่อความอุ่นใจมากยิ่งขึ้นกันด้วยนะ
ใครไม่รู้ว่าจะเริ่มมองหาประกันรถยนต์ที่ถูกใจจากที่ไหน ก็ลองเข้ามาหาดีลดี ๆ ได้ที่ heygoody ได้เลย เพราะสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้ก่อนตัดสินใจซื้อ แถมยังสามารถผ่อนชำระ 0% ได้สูงสุดถึง 10 เดือนอีกด้วย!
ที่มา : one2car